🧀 ครีมชีสไม่ใช่แค่ของหวาน! รู้จักให้ลึกก่อนเลือกกินให้พอดี

_769420c3-ecf4-4293-8ed9-2166eeef6183

🥄 เนื้อนุ่ม รสละมุน ใช้งานง่าย
🧂 ต่างจากชีสทั่วไปทั้งเนื้อ รส และวิธีผลิต
💪 ให้แคลเซียม วิตามิน แต่ต้องกินพอดี
⚠️ เสี่ยงอ้วน-ไขมันในเลือด หากกินเกิน
🧊 แนะนำวิธีเก็บรักษาอย่างถูกต้อง

“ครีมชีส” กลายเป็นวัตถุดิบยอดนิยมในโลกของเบเกอรี่และอาหารแนวฟิวชัน ไม่ว่าจะเป็นชีสเค้ก ขนมปัง หรือแม้แต่อาหารคาวอย่างซอสพาสต้าและโรลแซนด์วิช แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่า “ครีมชีส” แตกต่างจากชีสชนิดอื่นอย่างไร รวมถึงข้อดีและข้อควรระวังในการบริโภค

ครีมชีส (Cream Cheese) คือชีสชนิดหนึ่งที่ผลิตจากนมและครีม โดยผ่านกระบวนการทำให้ตกตะกอนและกรองน้ำออก ลักษณะเด่นคือเนื้อเนียนนุ่ม ละเอียด ทาได้ง่าย และมีรสชาติเปรี้ยวเค็มเล็กน้อย แตกต่างจากชีสแบบแข็งทั่วไป เช่น เชดด้า หรือพาร์มีซาน ที่มีเนื้อแน่น กลิ่นแรง และผ่านการบ่มนาน

ครีมชีสไม่เพียงแต่ใช้ในของหวานอย่างชีสเค้กหรือมัฟฟินเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปเป็นส่วนผสมในอาหารคาว เช่น สปาเกตตีครีมชีส ซอสดิป หรือแม้แต่ใช้เป็นทาขนมปังในมื้อเช้าก็เพิ่มความกลมกล่อมได้ดี

ในด้านโภชนาการ ครีมชีสมีคุณค่ามากกว่าที่หลายคนคิด เพราะเป็นแหล่งของแคลเซียม วิตามิน A และ B12 ซึ่งจำเป็นต่อระบบกระดูก การมองเห็น และภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังมีไขมันดีที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมันได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยปริมาณไขมันอิ่มตัวและแคลอรีที่ค่อนข้างสูง ครีมชีสจึงควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม การกินมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อไขมันในเลือดสูง น้ำหนักตัวเพิ่ม และโรคหลอดเลือดหัวใจ

ข้อควรระวังอีกประการหนึ่งคือครีมชีสเป็นผลิตภัณฑ์ที่เสียง่าย จึงควรเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาและปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีน้ำตาลหรือสารปรุงแต่งเกินจำเป็น หากพบว่าเนื้อครีมชีสเปลี่ยนสีหรือมีกลิ่นผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคทันที

สุดท้าย ครีมชีสเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มรสชาติและสัมผัสนุ่มละมุนให้กับมื้ออาหาร แต่ควรเลือกบริโภคอย่างรู้เท่าทัน เพื่อให้ได้ประโยชน์โดยไม่กระทบสุขภาพในระยะยาว

#ครีมชีสกินยังไงให้ดีต่อสุขภาพ
#ชีสสายเบเกอรี่ต้องรู้
#ลดเค็มลดมันเริ่มที่ครีมชีส
#กินครีมชีสอย่างฉลาด
#รู้ทันครีมชีส

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์

 


Leave a Response

เรื่องล่าสุด