🌬️ อากาศหมุนเวียนช่วยลดฝุ่นสะสม
🪴 ต้นไม้กรองอากาศ ลดฝุ่นได้จริง
🧼 เฟอร์นิเจอร์เรียบ-ไม่มีพรมลดการกักฝุ่น
🧹 ห้องนอนต้องดูแลพิเศษ
🔄 พฤติกรรมในบ้านมีผลต่อปริมาณฝุ่น

“ฝุ่น” อาจดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในบ้าน แต่จริง ๆ แล้วมันคือภัยเงียบที่ส่งผลต่อสุขภาพทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในระยะยาว แม้จะทำความสะอาดทุกวัน แต่หากละเลยต้นตอของฝุ่น ก็อาจทำให้ปัญหานี้ยิ่งสะสมและกลายเป็นสิ่งกระทบต่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัว

สาเหตุของฝุ่นในบ้านไม่ได้มาจากความสกปรกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น ละอองฝุ่นจากถนนใหญ่ เส้นผมและขนสัตว์ พื้นผิวที่กักเก็บฝุ่นอย่างพรมหรือผ้าม่าน และการระบายอากาศที่ไม่ดี หากไม่จัดการตั้งแต่ต้นเหตุ ก็อาจทำให้ต้องเผชิญกับฝุ่นซ้ำ ๆ แม้จะกวาดถูบ่อยแค่ไหนก็ตาม

แนวทางจัดการฝุ่นในบ้านอย่างยั่งยืน

1. ปลูกต้นไม้ในบ้านเพื่อช่วยกรองอากาศ เช่น ลิ้นมังกร เดหลี และพลูด่าง ซึ่งนอกจากจะดูดซับฝุ่นในอากาศได้ ยังเพิ่มออกซิเจนและลดสารพิษอีกด้วย
2. เปิดหน้าต่างระบายอากาศทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าฝุ่นภายนอกต่ำ การให้อากาศไหลเวียนช่วยลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค
3. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่กักฝุ่น ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ผิวเรียบ เช่น ไม้ โลหะ หรือหนัง แทนเฟอร์นิเจอร์บุผ้า ซึ่งสะสมฝุ่นได้ง่ายและทำความสะอาดยาก
4. จัดโซนเปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้านอกบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นจากภายนอกกระจายเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้าน
5. ใช้เครื่องฟอกอากาศและเครื่องดูดฝุ่นที่มี HEPA Filter เครื่องกรองชนิดนี้สามารถดักจับฝุ่นขนาดเล็ก โดยเฉพาะ PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรเปลี่ยนไส้กรองตามคำแนะนำ
6. เลี่ยงการใช้วัสดุที่สะสมฝุ่น เช่น พรมหรือผ้าม่านหนา หากเลี่ยงไม่ได้ ควรซักหรือดูดฝุ่นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และเลือกแบบที่ถอดซักได้เพื่อความสะดวกในการดูแล

ห้องนอนเป็นจุดสะสมฝุ่นที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะเป็นพื้นที่ที่ใช้เวลานานและใกล้ชิดกับร่างกายมากที่สุด โดยฝุ่นมักสะสมตามที่นอน หมอน ผ้าห่ม ผ้าม่าน หน้าต่าง ขอบเตียง รวมถึงขนสัตว์หรือเส้นผม

แนวทางกำจัดฝุ่นในห้องนอนให้ลึกถึงต้นตอ ได้แก่:

• ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่มทุก 1-2 สัปดาห์
• ดูดฝุ่นใต้เตียงและบนที่นอนด้วยเครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA
• เช็ดหน้าต่างและขอบเตียงด้วยผ้าชุบน้ำหมาด
• ใช้ผ้าม่านที่สามารถถอดซักได้ และซักเดือนละอย่างน้อย 1 ครั้ง
• ห้ามให้สัตว์เลี้ยงขึ้นเตียงโดยไม่เช็ดตัวให้สะอาด
• เปิดหน้าต่างให้ลมถ่ายเทวันละ 15-30 นาทีในช่วงที่ค่าฝุ่นต่ำ

การจัดการฝุ่นในบ้านจึงควรเริ่มจากความเข้าใจถึงต้นตอ และค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมกับการเลือกวัสดุ เฟอร์นิเจอร์ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม การดูแลเหล่านี้จะช่วยให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดภัย สดชื่น และดีต่อสุขภาพของทั้งครอบครัวอย่างยั่งยืน

#ลดฝุ่นในบ้าน
#บ้านปลอดฝุ่น
#HEPAFilterช่วยได้
#สุขภาพทางเดินหายใจ
#ฝุ่นPM25ภัยใกล้ตัว

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์