ต้านมะเร็ง บำรุงหัวใจด้วยสารพิเศษ
วิตามินซีสูงกว่ามะนาว
ช่วยขับถ่าย ลดน้ำหนักได้ดี
ต่างชาติยกย่อง “สุดยอดผักโลก”
ญี่ปุ่นราคาพุ่ง 10 เท่า เพราะขาดแคลน

“กะหล่ำปลี” ผักพื้นบ้านที่คนไทยคุ้นเคย กลับกลายเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่ทั่วโลกยกย่อง โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผักที่ดีที่สุดในโลก ทั้งจากคุณค่าทางโภชนาการ รสชาติ ไปจนถึงประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลากหลาย จนได้รับสมญาว่าเป็น “ยาของคนจน” ที่เข้าถึงง่าย แต่เต็มไปด้วยคุณค่าที่คาดไม่ถึง

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ระบุว่า กะหล่ำปลีสด 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 36.6 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่ามะนาวที่มีเพียง 29.1 มิลลิกรัม นอกจากนั้นยังมีโปรตีน 1.28 กรัม ใยอาหาร 2.5 กรัม และแร่ธาตุต่างๆ เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามิน A, B, C, E และ K

นักโภชนาการจาก Cleveland Clinic อย่าง Julia Zumpano ยืนยันว่ากะหล่ำปลีช่วยบำรุงระบบย่อยอาหาร เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยลดน้ำหนัก โดยสารไฟโตสเตอรอลและใยอาหารในกะหล่ำปลีช่วยให้ขับถ่ายดี ลดการดูดซึมแคลอรี และทำให้รู้สึกอิ่มนาน

ในด้านการต้านการอักเสบ งานวิจัยใน International Journal of Food Sciences and Nutrition ระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระในกะหล่ำปลีอย่าง kaempferol, quercetin และ apigenin ช่วยลดการอักเสบและของเสียในร่างกาย อีกทั้งยังดีต่อหัวใจ โดยช่วยควบคุมความดันโลหิต ลดไขมันเลว (LDL) และลดความเสี่ยงหลอดเลือดแข็งตัวในผู้หญิงวัยกลางคนตามข้อมูลจาก British Journal of Nutrition

กะหล่ำปลียังมีบทบาทสำคัญในการ ป้องกันมะเร็ง โดยวิตามินซีในผักชนิดนี้ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งตับอ่อน จากข้อมูลของ Everyday Health นอกจากนี้ยังมีสาร glucosinolate ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอักเสบ ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่และเต้านม จากงานวิจัยใน Annals of Oncology

ในแง่มุมของแพทย์แผนจีน รองประธานสมาคมแพทย์แผนจีนจังหวัดด่งนาย ประเทศเวียดนาม ระบุว่า กะหล่ำปลีมีรสหวาน เย็น ช่วยขับพิษ ขับปัสสาวะ แก้กระหายน้ำ บรรเทาแน่นท้อง และบำรุงอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ไต และไขกระดูก

ในขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) จัดให้กะหล่ำปลีเป็น “ผักที่ดีที่สุดในโลก” เพราะอุดมไปด้วยสารอาหาร แต่ให้พลังงานเพียง 12 กิโลแคลอรีต่อ 100 กรัม และมีน้ำมากถึง 95.14 กรัม จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ลดน้ำหนัก และดูแลผิวพรรณไปพร้อมกัน

ความนิยมกะหล่ำปลีไม่ได้จำกัดแค่ในไทยหรืออเมริกาเท่านั้น ญี่ปุ่นเองก็ให้ความสำคัญกับผักชนิดนี้ โดยเฉพาะในเมนูยอดนิยมอย่าง “ทงคัตสึ” ที่ต้องเสิร์ฟคู่กะหล่ำปลีซอย อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นปีที่ผ่านมา กะหล่ำปลีในญี่ปุ่นมีราคาพุ่งสูงถึง 1,000 เยนต่อหัว จากราคาปกติแค่ 100 เยน สาเหตุหลักเกิดจากภาวะภัยแล้ง อากาศร้อนจัด และฝนตกหนัก ทำให้ผลผลิตเสียหายหนักในหลายจังหวัด

แม้จะเป็นผักบ้านๆ ที่คนไทยเห็นกันทั่วไปในตลาดหรือสวนหลังบ้าน แต่ “กะหล่ำปลี” ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นมากกว่าผักธรรมดา ทั้งจากมุมมองของวิทยาศาสตร์และการแพทย์ทางเลือก เป็นผักที่ควรมีติดบ้านไว้เพื่อสุขภาพที่ดีในทุกมิติ

#กะหล่ำปลียาคนจน
#ผักดีที่สุดในโลก
#วิตามินซีสูงกว่ามะนาว
#ต้านมะเร็งด้วยผักไทย
#ผักพื้นบ้านราคาพุ่งญี่ปุ่น

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์