🧬 ซิฟิลิส ภัยเงียบทางเพศสัมพันธ์ เสี่ยงถึงชีวิตหากไม่รีบรักษา

_b5737f3e-8696-4a5a-b9d8-9ef6b4ffb9d4

🧫 แพร่ผ่านเพศสัมพันธ์-สารคัดหลั่ง
👶 แม่สามารถถ่ายทอดเชื้อสู่ลูกในครรภ์
🩺 มี 4 ระยะ อาการต่างกันชัดเจน
💉 วินิจฉัยได้ด้วยการตรวจเลือด
🛡️ ใช้ถุงยาง-ตรวจสุขภาพคือทางป้องกัน

ซิฟิลิส (Syphilis) คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีความรุนแรงและหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจส่งผลต่อระบบสำคัญของร่างกาย และถึงขั้นเสียชีวิตได้ โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum ซึ่งสามารถติดต่อได้หลายทาง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย การสัมผัสกับแผลหรือสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อ รวมถึงการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกในครรภ์

รศ. นพ.คมกฤช เอี่ยมจิรกุล สาขาวิชาอนามัยการเจริญพันธุ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า เชื้อ Treponema pallidum ไม่เพียงแต่อยู่ในเลือดและของเหลวในร่างกายเท่านั้น แต่ยังสามารถพบได้ในน้ำลาย ซึ่งหมายความว่าการจูบ หรือการทำออรัลเซ็กซ์กับผู้ติดเชื้อก็สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อซิฟิลิสได้

ซิฟิลิสสามารถติดต่อได้หลายช่องทาง ได้แก่:

  • การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย รวมถึงออรัลเซ็กซ์
  • การสัมผัสแผลหรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วย
  • การถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกระหว่างตั้งครรภ์
  • การรับเลือดจากผู้ที่ติดเชื้อ
  • การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น

โรคซิฟิลิสมีทั้งหมด 4 ระยะ ซึ่งแต่ละระยะมีลักษณะอาการเฉพาะ:

  1. ระยะที่ 1 (Primary Syphilis)
    ผู้ป่วยจะมีแผลริมแข็ง (chancre) เล็ก ๆ บริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนัก แผลนี้ไม่มีอาการเจ็บจึงอาจทำให้ผู้ป่วยไม่รู้ตัว
  2. ระยะที่ 2 (Secondary Syphilis)
    เกิดผื่นบริเวณลำตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และอาจมีแผลนูนร่วมด้วย เป็นช่วงที่สามารถแพร่เชื้อได้สูง
  3. ระยะแฝง (Latent Stage)
    ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการใด ๆ แต่ยังสามารถแพร่เชื้อได้ โดยเฉพาะในช่วงแรกของระยะนี้
  4. ระยะที่ 3 (Tertiary Stage)
    เชื้อจะลุกลามเข้าสู่ระบบหัวใจ หลอดเลือด และระบบประสาท ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติถาวร หรือเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษา

การวินิจฉัยโรคซิฟิลิส
แพทย์จะทำการตรวจเลือดเพื่อตรวจหาเชื้อ หรือใช้กล้องจุลทรรศน์ตรวจแผล ในบางกรณีอาจเจาะน้ำไขสันหลังเพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม การรักษามาตรฐานคือการฉีดยาปฏิชีวนะเพนนิซิลิน ซึ่งหากเริ่มรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นสามารถหายขาดได้

ผู้ติดเชื้อควรงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าผลเลือดจะกลับมาเป็นลบ และควรแจ้งคู่นอนให้เข้ารับการตรวจรักษาเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

อันตรายของซิฟิลิสอยู่ที่ความไม่แสดงอาการในบางช่วง ทำให้ผู้ป่วยบางรายไม่รู้ตัวจนเข้าสู่ระยะรุนแรงที่ส่งผลต่อสมอง ระบบประสาท หรือระบบหัวใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดความพิการ หรือเสียชีวิตในที่สุด

การป้องกันโรคซิฟิลิสที่ดีที่สุด ได้แก่:

  • สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่มั่นใจว่าเป็นผู้ติดเชื้อหรือไม่
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแผลหรือของเหลวจากผู้ที่ติดเชื้อ
  • ไม่ใช้เข็มร่วมกับผู้อื่น
  • เข้ารับการตรวจเลือดเมื่อสงสัยว่าตนเองอาจมีความเสี่ยง

การให้ความรู้และการตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคซิฟิลิสมีความสำคัญยิ่งในการลดการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูงและวัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ซึ่งในระยะหลังพบว่าอัตราการติดเชื้อกลับมาสูงขึ้นอีกครั้งในหลายพื้นที่ของประเทศไทย

#ซิฟิลิสคืออะไร
#โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
#เช็คเลือดป้องกันซิฟิลิส
#เพศสัมพันธ์ปลอดภัย
#สุขภาพทางเพศต้องรู้

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์


Leave a Response

เรื่องล่าสุด