🦠 ฟองน้ำในครัวเสี่ยงแพร่เชื้อแบคทีเรียรุนแรง
🏠 ผู้เชี่ยวชาญเตือน เปลี่ยนฟองน้ำทุก 2-3 สัปดาห์
🧼 แนะวิธีทำความสะอาดฟองน้ำอย่างถูกต้อง
🥩 สิ่งของอื่นในครัวก็เสี่ยงปนเปื้อนเชื้อโรค
🚰 อ่างล้างจาน-เขียง-ตู้เย็น ต้องดูแลสม่ำเสมอ
ข้อมูลใหม่จากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหารเปิดเผยข้อเท็จจริงชวนตกใจว่า “ฟองน้ำล้างจานในครัว” คือหนึ่งในแหล่งสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในบ้าน ซึ่งอาจมีแบคทีเรียมากกว่าขอบชักโครกเสียอีก โดยผู้เชี่ยวชาญหลายรายระบุว่า ทุกครั้งที่คุณใช้ฟองน้ำเพื่อทำความสะอาด อาจกลายเป็นการแพร่เชื้อแบคทีเรียไปทั่วห้องครัวโดยไม่รู้ตัว
ดาริน เดทไวเลอร์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น สหรัฐอเมริกา ชี้ว่า ฟองน้ำที่เปียกชื้นและเต็มไปด้วยเศษอาหารเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียชั้นดี ซึ่งไม่เพียงแค่ไม่ช่วยให้สะอาด แต่ยังทำให้ห้องครัวกลายเป็นแหล่งปนเปื้อนเชื้อโรคขนาดย่อม โดยพบว่าฟองน้ำเหล่านี้สามารถสะสมแบคทีเรียได้มากถึงหลายหมื่นล้านตัวต่อหนึ่งลูกบาศก์เซนติเมตร และแบคทีเรียสามารถเพิ่มจำนวนได้เป็นสองเท่าภายในเวลาเพียง 30-60 นาที
เบ็คกี ราพินชุค ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดและผู้ก่อตั้ง Clean Mama ระบุว่า ฟองน้ำมักถูกใช้งานบ่อยและไม่ค่อยมีการทำความสะอาดที่เหมาะสม ขณะที่เจสัน เทโทร นักจุลชีววิทยา อธิบายว่า โครงสร้างรูพรุนของฟองน้ำเอื้อให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้แบบสามมิติ และหากฟองน้ำสัมผัสเนื้อดิบหรือถูกจับหลังการเข้าห้องน้ำโดยไม่ล้างมือให้สะอาด ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการมีแบคทีเรียจากอุจจาระ เช่น อีโคไล หรือแซลโมเนลลา
ชาร์ลส์ เกอร์บา นักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา ระบุว่า การใช้ฟองน้ำเช็ดพื้นที่ที่เคยสัมผัสเนื้อดิบ เช่น เคาน์เตอร์หรือเขียง สามารถทำให้แบคทีเรียจากอุจจาระปนเปื้อนไปในฟองน้ำ และแพร่ไปยังจานชาม หรือแม้แต่มือของผู้ใช้
สำหรับผลกระทบต่อสุขภาพ เดทไวเลอร์ระบุว่า แบคทีเรียที่พบบ่อยในฟองน้ำสกปรก ได้แก่ ซัลโมเนลลา, อีโคไล, แคมไพโลแบคเตอร์ และลิสทีเรีย ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย หรือในกรณีรุนแรงอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรนำฟองน้ำเข้าเครื่องล้างจานทุกคืน และบีบน้ำออกเพื่อให้แห้งสนิทตอนเช้า หรืออีกวิธีหนึ่งคือ แช่ฟองน้ำในน้ำผสมน้ำยาฟอกขาวอัตราส่วน 1 ลิตรต่อน้ำยา 3 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดและผึ่งให้แห้ง คริสติน ดี นิโคแลนโทนิโอ จากสถาบันสุขอนามัยแห่งสหรัฐฯ เสริมว่า ควรเปลี่ยนฟองน้ำทุก 2-3 สัปดาห์ หรือเร็วกว่านั้นหากมีกลิ่นหรือเริ่มเสื่อมสภาพ ทั้งนี้ แนะนำให้ใช้แปรงล้างจานแทนฟองน้ำ เนื่องจากสามารถล้างในเครื่องล้างจานและมีการสะสมแบคทีเรียน้อยกว่า
ไม่เพียงแค่ฟองน้ำเท่านั้นที่เป็นต้นตอของเชื้อโรคในครัว ยังมีสิ่งของอื่นที่ต้องระวัง ได้แก่
- ตู้เย็น – คาดี ดูลุด จาก Wizard of Homes NYC ชี้ว่า ตู้เย็นที่มีคราบหกเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและแพร่กระจายได้ทั่วตู้ เธอแนะนำให้เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ และใช้แผ่นรองชั้นวางแบบซักได้
- เขียงและเคาน์เตอร์ – หากใช้เขียงที่สัมผัสเนื้อดิบแล้วไม่ล้างทันที แบคทีเรียจากน้ำเนื้อดิบสามารถแพร่กระจายได้ ดูลุดแนะนำให้ใช้เขียงไม้ธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย และควรใช้เขียงแยกสำหรับเนื้อกับผัก พร้อมเช็ดเคาน์เตอร์ด้วยน้ำสบู่หรือผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่ปลอดภัย
- อ่างล้างจาน – กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ ระบุว่า อ่างล้างจานเป็นอีกหนึ่งจุดเสี่ยง เนื่องจากมักใช้ล้างทุกอย่างตั้งแต่จานชามจนถึงผักผลไม้ เกอร์บาแนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดอ่างล้างจาน โดยเฉพาะหลังจัดการเนื้อดิบ และควรฆ่าเชื้ออ่างอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง รวมถึงเทน้ำยาฟอกขาวผสมน้ำลงท่อเดือนละครั้งเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
ผู้เชี่ยวชาญยังเน้นว่า การล้างมือหลังเข้าห้องน้ำอย่างถูกวิธี และการรักษาความสะอาดของเครื่องมือในครัวอย่างสม่ำเสมอ คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรียในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#ฟองน้ำล้างจาน
#ครัวสะอาดชีวิตปลอดภัย
#สุขอนามัยในบ้าน
#แพร่เชื้อไม่รู้ตัว
#ล้างมือให้ถูกวิธี
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์

Leave a Response