เช็กอาการขาดวิตามิน D เบื้องต้น
วิตามิน D สำคัญต่อภูมิคุ้มกัน
คนทำงานในห้องแอร์เสี่ยงสูง
แหล่งอาหารที่ให้วิตามิน D
เสริมเกินอาจเกิดพิษ ต้องปรึกษาแพทย์

คุณเคยรู้สึกเหนื่อยง่าย ป่วยบ่อย หรือมีอารมณ์แปรปรวนโดยไม่ทราบสาเหตุหรือไม่? โดยเฉพาะสาวออฟฟิศที่ใช้ชีวิตในห้องแอร์ทั้งวัน อาจกำลังเผชิญกับ “ภาวะขาดวิตามิน D” โดยไม่รู้ตัว บทความนี้จะพาเช็กอาการเบื้องต้นและแนะนำวิธีเพิ่มวิตามิน D อย่างปลอดภัยและได้ผล

วิตามิน D เป็นสารอาหารสำคัญที่มีบทบาทในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน การดูดซึมแคลเซียม รวมถึงการทำงานของกล้ามเนื้อและสมอง หากร่างกายได้รับวิตามิน D ไม่เพียงพอในระยะยาว อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน ความดันโลหิตสูง และอารมณ์ซึมเศร้า

อาการเตือน 6 อย่างที่อาจบ่งชี้ว่าร่างกายขาดวิตามิน D ได้แก่:

1. รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายแม้ไม่ได้ทำงานหนัก
2. ป่วยบ่อย หวัดหรือติดเชื้อง่าย
3. ปวดกล้ามเนื้อหรือกระดูกโดยไม่มีสาเหตุ
4. อารมณ์แปรปรวน มีแนวโน้มเป็นซึมเศร้า
5. นอนไม่หลับ หลับไม่ลึก
6. ผมร่วงผิดปกติ

กลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มขาดวิตามิน D ได้แก่

• คนทำงานในอาคารหรือในห้องแอร์ที่ไม่ได้สัมผัสแสงแดด
• ผู้ที่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
• ผู้ที่มีผิวคล้ำ ซึ่งดูดซับวิตามิน D จากแสงแดดได้น้อยลง
• ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน

วิธีเพิ่มวิตามิน D อย่างง่ายและปลอดภัย:

• รับแสงแดดยามเช้าเป็นเวลา 10–15 นาที โดยไม่ทาครีมกันแดด
• บริโภคอาหารที่มีวิตามิน D สูง เช่น ไข่แดง ปลาทะเล น้ำมันตับปลา เห็ดที่ผ่านแสงแดด
• เสริมวิตามิน D ในรูปแบบอาหารเสริม หากตรวจเลือดแล้วพบว่าระดับต่ำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรับประทาน
• หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ขัดขวางการดูดซึม เช่น การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิตามิน D จะเป็นประโยชน์มาก แต่การรับมากเกินความจำเป็นอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ เบื่ออาหาร หรือแคลเซียมในเลือดสูงจนเกิดอันตรายได้

ปัญหาการขาดวิตามิน D มักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศที่ไม่ค่อยได้เจอแสงแดด แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับพฤติกรรมเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังให้กับร่างกายและเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาว

#ขาดวิตามินDไม่รู้ตัว
#สุขภาพสาวออฟฟิศ
#วิตามินDกับแสงแดด
#เช็กอาการขาดวิตามิน
#ปรับไลฟ์สไตล์สุขภาพดี

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์