🧠 เช็กด่วน! 10 สัญญาณอันตราย เสี่ยง “โรคแพนิค” โดยไม่รู้ตัว

_c6892650-c3ea-41d8-879e-a0a5a8a9667e

😰 อาการแพนิคบ่อยครั้ง เสี่ยง “โรคแพนิค”
🧍‍♂️ มีอาการทางกายหลายอย่างพร้อมกัน
🚨 แพนิคซ้ำบ่อย ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน
🧪 ต้องแยกจากโรคอื่นก่อนวินิจฉัย
💊 การรักษาใช้ยาและควบคุมการหายใจ

สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย โดย นพ.มีฟ้า ระบุว่า “โรคแพนิค” หรือ Panic Disorder คือภาวะทางจิตเวชที่พบได้บ่อยในประชากร ราว 2-5% แม้คนทั่วไปอาจเคยเผชิญอาการแพนิคหรือ Panic Attack อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ไม่ได้แปลว่าเป็นโรคแพนิคโดยตรง เพราะต้องมีอาการซ้ำๆ และส่งผลต่อการใช้ชีวิต

โรคแพนิคมีลักษณะเฉพาะคือ อาการทางกายอย่างน้อย 4 อย่างขึ้นไปเกิดพร้อมกัน อาทิ ใจสั่น หัวใจเต้นแรง หายใจไม่อิ่ม แน่นหน้าอก มึนหัว เหงื่อออก ตัวสั่น คลื่นไส้ มือชา หรือรู้สึกวูบวาบร้อนวูบ หากอาการเหล่านี้เกิดเพียงครั้งเดียวในสถานการณ์ตึงเครียด เช่น เมื่อลงทะเลครั้งแรก หรือพูดต่อหน้าคนหมู่มาก ก็ยังไม่นับว่าเป็นโรคแพนิค

อย่างไรก็ตาม หากอาการแพนิคเกิดซ้ำๆ โดยไม่มีสาเหตุจากยา สารเสพติด หรือโรคทางกายอื่นๆ อาจต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากภาวะนี้มักเริ่มจากการคาดเดาไม่ได้ เช่น เวลาขับรถ หรือโดยสารเครื่องบิน ทำให้ผู้ป่วยเกิดความกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือหนีออกจากสถานการณ์ไม่ได้

ผลกระทบที่รุนแรงกว่านั้นคือ บางรายอาจกลัวการอยู่ในสถานที่ที่เคยมีอาการ เช่น รถไฟฟ้า บันไดเลื่อน หรือพื้นที่ปิด จนถึงขั้นไม่กล้าออกจากบ้าน หรือเกิดภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย บางรายใช้แอลกอฮอล์หรือสารเสพติดเพื่อบรรเทาอาการ ซึ่งนำไปสู่อันตรายซ้ำซ้อน

จุดสำคัญของโรคแพนิคคืออาการจะพุ่งสูงสุดในช่วง 10-15 นาที และค่อยๆ หายไปภายในไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ซึ่งบางคนอาจไม่มีความเครียดมาก่อนเลย แต่เกิดจากการทำงานผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้ไม่รู้ตัวว่าเสี่ยง

ในกรณีมีอาการครั้งแรก ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อแยกแยะอาการจากโรคอื่น เช่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคไทรอยด์ หรือแม้กระทั่งอาการนำของโรคลมชัก นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกระตุ้นจากสารบางชนิด เช่น คาเฟอีน พิษจากกัญชา หรือการถอนสารเสพติด

แนวทางการรักษาโรคแพนิคแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่

  1. การใช้ยา
  • ยาแก้อาการ เช่น Benzodiazepine ได้แก่ Alprazolam, Clorazepate, Diazepam ใช้เฉพาะเมื่อมีอาการ
  • ยาต้านซึมเศร้า ที่ช่วยลดความถี่ของอาการแพนิคและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ โดยเริ่มเห็นผลใน 2 สัปดาห์
  1. การฝึกควบคุมลมหายใจ (Breathing Exercise)
    เมื่อเริ่มรู้ตัวว่ากำลังมีอาการ ให้
  • นั่งพัก ตั้งสติ
  • หายใจช้าๆ ลึกๆ ยาวๆ โดยหายใจออกให้นานกว่าหายใจเข้า
  • ใช้วิธีนับ: หายใจเข้านับ 1-2-3-4 หายใจออกนับ 1-2-3-4-5-6

วิธีนี้ช่วยลดภาวะหายใจเร็ว หายใจตื้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้อาการหนักขึ้น ผู้ป่วยบางรายสามารถควบคุมอาการได้โดยไม่ต้องใช้ยาฉุกเฉิน

ผู้ที่มีอาการบ่อยหรือรุนแรง ควรพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการและเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม

#โรคแพนิค
#สุขภาพจิตต้องใส่ใจ
#เครียดไม่รู้ตัว
#หายใจให้ถูกวิธี
#อาการแพนิคอย่านิ่งนอนใจ

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง