🛤️ อธิบดีกรมอุทยานฯ เผยคืบหน้า “กระเช้าไฟฟ้าภูกระดึง” เดินหน้าศึกษาออกแบบ

P1650110

📌 งบ 25.7 ล้าน ศึกษาแบบกระเช้าภูกระดึง
📌 คาดชัดเจนภายใน 2 ปี พร้อมทำ EIA
📌 ใช้เทคโนโลยียุโรป กระทบธรรมชาติน้อยสุด
📌 เตรียมเส้นทางรถรางไฟฟ้าบนยอดภูกระดึง
📌 จำกัดนักท่องเที่ยว 2,000 คน/วัน

🗓️ วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงว่า ขณะนี้มีการต่ออายุใบอนุญาตให้ดำเนินการศึกษาโครงการอีกไม่เกิน 2 ปี โดยยืนยันว่าจะต้องมีการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการศึกษาเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่น้อยที่สุด

โครงการนี้ได้รับงบประมาณ 25.7 ล้านบาทจากสำนักงบประมาณ เพื่อให้คณะกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ดำเนินการออกแบบก่อสร้าง ซึ่งในเบื้องต้น ได้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างผู้บริหาร อพท. และกรมอุทยานฯ โดยตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำรายละเอียดแผนงาน และโรดแมปการดำเนินโครงการให้ชัดเจนภายใน 2 ปี

ในการประชุมมีการนำเสนอเทคโนโลยีจากหลายประเทศในยุโรป เช่น สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน และเยอรมนี สำหรับใช้ในการออกแบบระบบกระเช้าไฟฟ้า โดยมีจุดก่อสร้างกระเช้าที่ผาหมากดูก ไม่ใช่จุดขึ้นเดิม คาดว่าระยะทางกระเช้าไม่เกิน 3 กิโลเมตร

โครงการแบ่งเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกเป็นการก่อสร้างกระเช้า คาดใช้งบไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ส่วนเฟสที่สองจะเป็นการพัฒนาพื้นที่บริการนักท่องเที่ยวทั้งด้านบนและด้านล่างของภูกระดึง เนื่องจากระยะทางจากผาหมากดูกถึงผาหล่มสักยาวถึง 10 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยอาจไม่สะดวกในการเดินทาง จึงมีแนวคิดเสริมบริการรถรางไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่สามารถวิ่งบนเส้นทางปรับด้วยดินหรือคอนกรีต แต่ไม่ใช่ถนนถาวร เพื่อกลมกลืนธรรมชาติและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นายอรรถพลระบุว่า ปัจจุบันเสียงคัดค้านโครงการน้อยลงมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรับฟังความคิดเห็น พบว่าประชาชนเห็นด้วยเกือบทั้งหมด อีกทั้งคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร ได้สอบถามถึงความคืบหน้าโครงการอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน กรมอุทยานฯ กำลังพิจารณาปรับรูปแบบการท่องเที่ยวในโซนที่มีความเสี่ยงจากช้างป่า เนื่องจากจำนวนประชากรช้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาจมีการปิดพื้นที่บางส่วนถาวร และปรับรูปแบบการชมธรรมชาติในลักษณะ “ซาฟารี” เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ อพท.จะเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการก่อสร้าง และจะมอบพื้นที่ให้กรมอุทยานฯ เป็นผู้บริหาร โดยยังคงมาตรการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกินวันละ 2,000 คน เพื่อควบคุมผลกระทบต่อระบบนิเวศในระยะยาว

#กระเช้าภูกระดึง
#เที่ยวไทยยั่งยืน
#EIAต้องมาก่อน
#รถรางบนภูกระดึง
#ข่าวดีเลย

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง