
🦵 ปวดเกร็งขา ขณะเดินพักแล้วดีขึ้น
❄️ มือเท้าเย็น อ่อนเพลีย ชา บวม
🧠 สมองเบลอ เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
🧬 ภูมิคุ้มกันต่ำ-ขับถ่ายผิดปกติ
💅 ผมร่วง เล็บเปราะ เปลี่ยนสีผิว
ภาวะไหลเวียนโลหิตไม่ดี หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่าโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (Peripheral Artery Disease: PAD) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยและอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงหากละเลย โดยมีสาเหตุมาจากการสะสมของคราบพลัค (plaque) ภายในหลอดเลือดแดง ส่งผลให้หลอดเลือดแข็งหรือตีบแคบ จนรบกวนการลำเลียงโลหิตที่อุดมด้วยออกซิเจนไปยังอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่อาการและโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ในหลายระบบของร่างกาย
หนึ่งในสัญญาณเริ่มต้นที่พบบ่อยคือ อาการปวดเกร็งขาเวลาเดิน หรือที่เรียกว่า “ภาวะปวดเมื่อยขณะเดิน” ซึ่งจะดีขึ้นเมื่อพัก เกิดจากเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่พอโดยเฉพาะบริเวณขา
นอกจากนี้ผู้ป่วยอาจมีอาการ ชา อ่อนแรง บวม ตามแขนขา เพราะเลือดไหลเวียนไม่ดี ทำให้เนื้อเยื่อขาดออกซิเจน อีกทั้งยังส่งผลให้ รู้สึกหนาวง่าย เหนื่อยล้า โดยเฉพาะที่มือและเท้า
อีกหนึ่งสัญญาณที่สังเกตได้คือ การเปลี่ยนแปลงของสีผิว ซึ่งอาจซีด คล้ำ หรือเทากว่าปกติ รวมถึง เล็บเปราะ ผมร่วง เพราะเลือดและสารอาหารไปเลี้ยงรากผมและเล็บไม่พอ
หากภาวะไหลเวียนโลหิตไม่ดีเกิดขึ้นในหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจ อาจทำให้เกิด อาการเจ็บหน้าอก หรือหนักสุดถึงขั้นหัวใจวายได้ ขณะที่หากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ อาจทำให้ สมองเบลอ ความจำลดลง และในบางกรณีรุนแรงอาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมอง
ภาวะนี้ยังส่งผลต่อ ระบบภูมิคุ้มกัน เพราะเม็ดเลือดขาวเคลื่อนตัวได้ช้า ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น และหากส่งผลต่อทางเดินอาหาร อาจเกิด อาการขับถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง อาเจียน หรือมีเลือดออกทางทวารหนัก ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที
การเฝ้าระวังอาการเหล่านี้ และหมั่นตรวจสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงปรับพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันภาวะไหลเวียนโลหิตไม่ดี และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงที่อาจคุกคามชีวิตในอนาคต
#ไหลเวียนโลหิตไม่ดี
#โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
#สัญญาณเตือนโรคหัวใจ
#สุขภาพดีเริ่มที่ระบบไหลเวียน
#ภาวะหลอดเลือดตีบ
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์

Leave a Response