คืบหน้าโอละพ่อ ลุงโดนคนร้าย 3 คนปล้นเงิน 25,000 บาท ล่าสุด ตำรวจคุมตัวจากโรงพยาบาลมาสอบปากคำดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จ เจ้าตัวยกมือไหว้ขอโทษเจ้าหน้าที่ทุกคนและขอโทษสังคม เพราะหาทางออกไม่ได้เนื่องจากติดหนี้ค่าจ้างคนงานปลูกมะเขือเทศ กุเรื่องหวังให้ลูกสาวที่อยู่เมืองนอกเห็นใจส่งเงินมาให้ใช้หนี้ ขณะที่ลูกชายพูดไม่ออก ผิดหวังที่พ่อเลือกทางออกแบบนี้

ความคืบหน้ากรณี ตำรวจ สภ.เวฬุวันได้รับแจ้งเหตุว่า มีคนร้ายเป็นชาย 3 คน ปล้นทรัพย์นายสมศรี  อายุ 65 ปี โชเฟอร์ขับรถทัวร์บริษัททัวร์ท่องเที่ยว อยู่ ม.20 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่บริเวณริมถนนสายบ้านหนองปอ-บ้านวังตอ ก่อนถึงสะพานบ้านวังตอประมาณ 200 เมตร ในพื้นที่บ้านหนองปอ หมู่ 2 ตำบลบ้านค้อ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เมื่อคืนวันที่ 8 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา ได้กระเป๋าสะพายมีเงินสดจำนวน 25,000 บาทไป และต่อมาเมื่อช่วงเช้าลุงสมศรีสารภาพกับตำรวจแล้วว่ากุเรื่องขึ้นมาเพราะเป็นหนี้ค่าจ้างคนงานปลูกมะเขือเทศ หาทางออกไม่ได้จึงสร้างเรื่องขึ้นเผื่อจะผลัดวันออกไปและยืมเงินกับญาติพี่น้องมาจ่ายให้

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 ก.พ. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เวฬวัน จ.ขอนแก่น ได้คุมตัวนายสมศรี อายุ 65 ปี ที่กุเรื่องจากโรงพยาบาลขอนแก่น มาที่ สภ.เวฬุวัน เพื่อทำการสอบปากคำก่อนแจ้งข้อกล่าวหาแจ้งความเท็จ โดย พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น รรท.ผกก.สภ.เวฬุวัน ได้ทำการสอบสวนด้วยตัวเอง ซึ่งนายสมศรี ศรีนุ้ย ได้ยกมือไหว้ขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ช่วยกันคลี่คลายคดีดังกล่าว และขอโทษสังคมที่ทำเรื่องไม่ดีครั้งนี้ขึ้น พร้อมเล่าถึงรายละเอียดสาเหตุที่ทำว่า ตัวเองได้จ้างคนงานมาปลูกมะเขือเทศอยู่ที่บ้านจำนวนกว่า 3,000 ต้น โดยปลูกมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าแรงคนงาน ซึ่งขณะนี้ค้างอยู่ 23,000 บาท หาจากไหนก็ไม่ได้ ยืมใครก็ไม่มีให้ จึงบอกภรรยาว่าจะไปทำงานขับรถทัวร์หาเงินมาใช้หนี้ค่าแรง แต่จริงๆ แล้วตนเองไปเป็นเด็กรถได้ค่าจ้างวันละ 400 บาท โดยที่ภรรยาไม่รู้ว่าไปขับรถทัวร์จริงหรือไม่ พอเงินที่ได้รับจากบริษัทได้ไม่ถึง 20,000 บาททำให้ติดลบ ไม่พอจ่ายค่าแรงคนงาน ตนเองตั้งใจว่าจะยืมเงินลูกสาวที่อยู่เมืองนอกมาจ่ายค่าแรง แต่ลูกสาวไม่ให้ กระทั่ง 10 วันก่อนหาทางออกไม่ได้ เกิดความเครียด จึงตัดสินใจสร้างเรื่องที่โดนปล้นขึ้นมา

ด้าน พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวว่า สรุปในทางคดีหลังจากที่ครอบครัวแจ้งความว่าคุณลุงถูกปล้นทรัพย์ไปนั้น ทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำและพบพิรุธ รวมทั้งข้อสงสัยหลายประเด็น ไม่ว่าจะเรื่องที่ทำงานของคุณลุง ที่บอกเบิกเงินจากเถ้าแก่ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าบริษัทรถทัวร์ที่ไปขับอยู่ที่ไหน เถ้าแก่ชื่ออะไร เพราะต้องการประสานพูดคุยกับเถ้าแก่ว่าคุณลุงเบิกเงินมา 25,000 บาท จะมีใครที่พอจะรู้แล้วไปดักทำร้ายเอาเงินลุงไปได้บ้าง ก็ไม่สามารถตอบได้ พอถามไปถามมาคุณลุงจำนนด้วยคำตอบที่ไม่สามารถตอบได้ จึงยอมรับสารภาพว่ามีปัญหาทางด้านการเงิน มีหนี้ที่จะต้องไปชำระต่างๆ จึงได้สร้างสถานการณ์ตัวนี้ขึ้น เพื่อที่จะแก้ปัญหาของตัวเองไปก่อน ในส่วนของทางคดี ก็จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาแจ้งข้อความเท็จตามขั้นตอนต่อไป

#ข่าวขอนแก่น

#โอละพ่อปล้นลุง

#แจ้งความเท็จ

#คดีพลิก

#หนี้สินและทางออก