ชาวไร่อ้อยภาคอีสานทวงเงินค่าตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท

Screenshot

ชาวไร่อ้อยภาคอีสาน ทวงเงินค่าตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท ที่ยังค้างจ่ายในฤดูกาลผลิตปี 2566/2567 วอนให้รัฐบาลจ่ายให้เร็วที่สุด เพื่อลดการเผาอ้อยและลด PM2.5

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ม.ค. 2568 ที่สมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น นายสิทธิบูรณ์ รัชตะสุวิโรจน์ ประธานสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน นายทิวากร ศิริกุล เลขาธิการสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน นายชัยวัฒน์ คำแก่นคูณ นายกสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยสมาชิกสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน 23 สถาบัน ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาการตัดอ้อยไฟไหม้ส่งเข้ากระบวนการผลิต ฤดูกาลผลิตปี 2567/2568 การช่วยเหลือชาวไร่อ้อยโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ที่ส่งอ้อยไฟไหม้เข้ากระบวนการผลิตเกิน 40.80% จนถูกสั่งปิดโรงงานน้ำตาล และเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินตัดอ้อยสดตันละ 120 บาทเพื่อลด PM2.5 ตามที่มีมติ ครม. ช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ยังค้างจ่ายในฤดูกาลผลิตปี 2566/2567

นายสิทธิบูรณ์ รัชตะสุวิโรจน์ ประธานสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน

นายสิทธิบูรณ์ รัชตะสุวิโรจน์ ประธานสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน เผยว่า ปัญหาการเผาไร่อ้อยและตัดอ้อยไฟไหม้นำส่งโรงงานนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เกษตรกรยังไม่ได้รับเงินค่าตัดอ้อยสดเมื่อปีที่แล้ว ที่ทางรัฐบาลรับปากว่าจะช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งโรงงานในราคาตันละ 120 บาท แต่รัฐบาลยังไม่จ่าย และยังค้างจ่าย จนมาถึงฤดูกาลของปีนี้ ที่อ้อยมีผลผลิตดี ต้นทุนการปลูกอ้อยก็เพิ่มมากขึ้น แต่เงินที่รัฐบาลจะจ่ายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ตัดอ้อยสดของปีที่แล้วนั้น ยังไม่มีการจ่าย จึงเห็นควรว่ารัฐบาลควรพิจารณาจ่ายให้เกษตรกรได้แล้ว

“ในขณะเดียวกัน ก็ต้องหาแนวทางการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยของจังหวัดอุดรธานี ที่ไม่สามารถส่งอ้อยเข้าโรงงานได้เนื่องจากว่าไร่อ้อยไฟไหม้ ในที่ประชุมจึงมีความเห็นว่า จะนำเงินกองทุนอ้อยและน้ำตาลมาเยียวชาวไร่อ้อย เพราะชาวไร่อ้อยสร้างรายได้นำเงินเข้าประเทศมากกว่า 2 แสนล้านต่อปี จึงอยากให้ทางภาครัฐเร่งช่วยเหลือเงินค่าตัดอ้อยตันละ 120 บาท ที่ค้างจ่ายในปี 2567 จ่ายให้เกษตรชาวไร่อ้อยให้เร็วที่สุด”

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง