ไรเดอร์หมวกหูแมวยัน! ไม่เข้าพบตำรวจตามหมายเรียก เพราะกฎหมายมันไม่ศักดิ์สิทธิ์ ชี้ถูกกระทำก่อน

Cover Web KKL (เว็บไซต์)

คืบหน้า หญิงไรเดอร์หมวกหูแมว เทขยะราดน้ำบนถนนหน้าร้านอาหาร ลั่นไม่เข้าพบตำรวจตามหมายเรียกเพราะกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ กรณีร้านอาหารถูกยกเท้าชี้หน้าก่อน จึงนำรองเท้าไปยกใส่คืน และทุกการกระทำถูกทำก่อนพวกคนเหล่านั้นรู้ดี

?

จากกรณีเจ้าของร้านอาหารเดลิเวอรี่โพสต์คลิปวงจรปิดหน้าร้าน บันทึกภาพพฤติกรรมของหญิงไรเดอร์หมวกกันน็อคหูแมว นำขยะและของเหลวบรรจุขวดมาเทเรี่ยรายหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยอนามัย 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 67 และวันที่ 5 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งทิชชู่ที่ใช้แล้ว คอตตอนบัดที่ใช้แล้ว รองเท้าผ้าใบเก่า 1 ข้าง และขวดน้ำปลาร้าบรรจุของเหลวลักษณะใสในขวดมาเทเรี่ยรายบนถนนหน้าร้านอาหาร และยังพบว่าได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีกหลายที่ ซึ่งนอกจากขยะเหล่านี้แล้วยังเคยโยนผ้าอนามัยที่ใช้แล้วใส่หน้าบ้านคนอื่นอีกด้วย โดยส่วนใหญ่เป็นหน้าบ้านของลูกค้าและร้านค้าที่หญิงไรเดอร์หมวกกันน็อคหูแมวรายนี้ไปรับส่งออเดอร์ ซึ่งเจ้าของร้านอาหารได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นเมื่อวานที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้รายงานไปยังต้นสังกัดค่ายบริการระบบเดลิเวอรี่ที่หญิงไรเดอร์หมวกหูแมวรายนี้สังกัดถึง 3 ค่ายด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับหญิงไรเดอร์หมวกหูแมว ทางโทรศัพท์ ซึ่งจากการสอบถามถึงสาเหตุที่ทิ้งขยะเรี่ยรายดังกล่าว เจ้าตัวบอกกับผู้สื่อข่าวว่า คนเรานั้นรู้ดีว่าเพราะอะไร กรณีในซอยอนามัย 2 เจ้าของร้านที่เป็นผู้ชายนั่งยกเท้าชี้หน้าร้าน และก็รู้ว่ายูเซอร์ที่จะไปรับอาหารคือตนเอง แต่ทำไมจึงยกเท้ามาใส่หน้าเรา ตนเองจึงนำรองเท้าไปยกใส่คืน มันผิดตรงไหนเพราะเป็นถนนสาธารณะ ถ้าเค้าจะอ้างว่าเค้าทำในบ้านเป็นที่ของเค้าเราก็ทำบนถนนซึ่งเป็นที่สาธารณะใครจะทำอะไรก็ได้ และที่อื่นๆ ก็เช่นกันล้วนแต่ถูกกระทำก่อน ซึ่งคนเรานั้นรู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร แต่ละที่พวกคุณรู้ว่าทำอะไรใส่เราถามไปก็ไม่ยอมรับสักอย่าง อย่ามาบอกว่าทำทำไม ทำเพราะอะไร ซึ่งพวกคุณรู้ดี

และไม่ขอเข้าพบตำรวจตามหมายเรียก ฝากบอกตำรวจด้วยว่าถ้ากฎหมายใช้กับคนอื่นไม่ได้อย่ามาใช้กับเรา เพราะอะไรตำรวจรู้ดี ตนเองถูกรถชนบาดเจ็บที่ขาไม่สามารถวิ่งรับส่งออเดอร์ได้เป็นสัปดาห์ คู่กรณีชดเชยมาแค่ 300 บาท เราแจ้งความให้ตำรวจไปตามผู้หญิงคนนั้นมาชดเชยค่าเสียหายก็ทำให้เราไม่ได้ แต่พอคนมีตังค์แจ้งความทำไมถึงทำให้เร็วจังเลย แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองทิ้งขยะ แต่อยากอ้างถึงว่ากฎหมายมันเป็นการเลือกปฏิบัติ เค้าเชิญให้ไปเราพบ เราจึงเลือกที่จะไม่ไป เพราะกฎหมายมันไม่ศักดิ์สิทธิ์ และเรื่องการทิ้งขยะมันก็เป็นที่สาธารณะถ้าทิ้งแล้วจะเป็นอะไร คนอื่นยังทิ้งได้ไม่เห็นถูกจับ ถ้าเค้าควบคุมคนอื่นไม่ได้อย่ามาควบคุมเรา ทำไมไม่ไปบังคับใช้กฎหมายกับคนอื่นให้ได้ก่อน ก่อนจะมาใช้กฎหมายกับเรา กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเราถ้าตำรวจยังควบคุมคนอื่นไม่ได้และถนนเป็นที่สาธารณะใครจะทิ้งก็ทิ้งได้ คนอื่นทิ้งได้แล้วตนเองทิ้งไม่ได้คนเดียวหรือในโลกนี้

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (6 มกราคม 2568) พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ออกหมายเรียกตัวผู้ก่อเหตุครั้งที่ 1 ไปแล้วโดยออกตามชื่อ และที่อยู่ของผู้ก่อเหตุ ที่ได้ข้อมูลจากผู้เสียหาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้นำหมายเรียกไปส่งให้ผู้ก่อเหตุที่บ้านแต่ไม่มีคนอยู่ ซึ่งตามกระบวนการต้องรอให้ผู้ก่อเหตุมาแสดงตัวตามหมายเรียกเท่านั้น หากไม่มาตามหมายเรียกภายใน 7 วัน ก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และหากยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนอีกก็จะต้องทำการออกหมายจับซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่พบตัวที่ใด ก็จะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ตามกฎหมายทันที

และจากพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ ที่ไม่ได้ก่อเหตุเพียงจุดเดียว แต่ยังมีการตระเวนก่อเหตุในอีกหลายพื้นที่ จะเข้าข่ายถึงขั้นเป็นพฤติกรรมป่วนเมืองหรือไม่นั้น ต้องดูว่าพฤติกรรมที่เขาก่อนั้นเข้าข้อหาผิดกฎหมายอะไร มีข้อกฎหมายรองรับหรือไม่ ทั้งนี้จากข้อมูลที่มี และพฤติกรรมที่ปรากฏ ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมออกไปทางคล้ายๆ กับคนมีอาการทางจิต แต่ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้ เพราะขณะนี้ยังไม่เจอตัวผู้ก่อเหตุ จึงต้องรอผู้ก่อเหตุมาแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนก่อน จากนั้นจะมีการส่งตัวผู้ก่อเหตุไปพบแพทย์ ซึ่งต้องรอการพิสูจน์จากแพทย์เพื่อยืนยันว่าพฤติกรรมดังกล่าว หรือตัวบุคคลผู้ก่อเหตุดังกล่าว เข้าข่ายป่วยทางจิตหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในส่วนของข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม บัญญัติไว้ว่า มาตรา 31 ห้ามมิให้ผู้ใดบ้วนน้ำลาย หรือถ่มน้ำลาย เสมหะ บ้วนน้ำมูก สั่งน้ำมูก เทหรือทิ้งสิ่งใดๆ ลงบนพื้นถนนหรือบนพื้นรถ หรือพื้นเรือโดยสาร และทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในสถานที่สาธารณะ นอกภาชนะหรือที่ที่ราชการส่วนท้องถิ่นได้จัดไว้

มาตรา 32 ห้ามมิให้ผู้ใดทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยลงบนที่สาธารณะ และปล่อยปละละเลยให้มีสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในที่ดินของตนในสภาพที่ประชาชนอาจเห็นได้จากที่สาธารณะ

มาตรา 33 วรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ผู้ใดเทหรือทิ้งสิ่งปฏิกูลมูลฝอย น้ำโสโครก หรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำ

มาตรา 55 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 31 และมาตรา 32 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

และมาตรา 57 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตาม มาตรา 33 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท///////

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง