🌍 งานใหญ่ประจำปี ที่คนขอนแก่นรอคอย

👚 จำหน่ายผ้าไหมนานาชาติจาก 6 ประเทศ

👫 การรำบวงสรวงรวมใจ ชาวขอนแก่นร่วม 50,000 คน

🎤 กิจกรรมผูกเสี่ยวและการแสดงพื้นบ้าน

💰 ส่งเสริมเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ชุมชน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่ห้องจัดแสดงสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานการแถลงข่าวงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และงานซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2567 ซึ่งจังหวัดขอนแก่นร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจากทั้ง 26 อำเภอของจังหวัด ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้นระหว่างวันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. ที่บริเวณโดยรอบศาลากลางจังหวัด

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และงานซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งเป็นงานที่ชาวขอนแก่นรอคอย เพราะทุกคนรู้และเข้าใจกันดีว่า หลังการเก็บเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้เที่ยวงานไหม ปีนี้การจัดงานจึงมีการจัดแสดงและจำหน่ายผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมของลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ กว่า 60 คูหา ควบคู่กับการแสดงและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ที่กำหนด ขณะที่เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ จังหวัดขอนแก่นมีครบทุกอย่างจึงได้บูรณาการซอฟต์พาวเวอร์เข้ามาด้วย เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของภาคอีสานที่มีความสะดวกในการคมนาคมขนส่งทั้งรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน ทำให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นศูนย์กลางการแพทย์และการรักษาพยาบาล เป็นศูนย์การศึกษา เป็นนครแห่งการท่องเที่ยวเมืองหลัก เป็นเมืองแห่งการสัมมนาเมืองไมซ์ซิตี้ เป็นเมืองที่พร้อมก้าวสู่สมาร์ทซิตี้ และมีประเพณีอันโดดเด่นหลายด้าน เป็นซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ที่สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ในเวทีโลก เช่น อาหาร ผ้าไหม มวยไทย และหมอลำ โดยปีนี้จะมีการจัดชกมวยไทยอย่างน้อย 100 คู่

“กิจกรรมในงานนั้นมีมากมาย แต่ที่สำคัญที่สุดคือการรำบวงสรวง ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นปีที่ 45 เนื่องจากจังหวัดเราได้จัดงานดังกล่าวขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ย. 2522 จนถึงปัจจุบัน ในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พ.ย. – 10 ธ.ค. จะมีการรำบวงสรวง โดยชาวขอนแก่นจะมาร่วมกันรำบวงสรวงประมาณ 50,000 คน ขอย้ำว่าการรำบวงสรวงนั้น ใครมีชุดเสื้อเหลืองดอกคูนกับผ้าซิ่นลายแคนแก่นคูนก็ใส่มา หากไม่มีสามารถใส่เสื้อผ้าธรรมดาทั่วไปร่วมรำได้ กลุ่มแม่บ้านใส่เสื้อกลุ่มมาได้ นักเรียน นักศึกษาใส่ชุดนักเรียน นักศึกษามาได้ ไม่มีการกำหนดว่าต้องใส่ชุดแบบไหน ขอเพียงมีใจอยากรำก็มาร่วมกัน เพราะถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ประชาชนมาร่วมกัน เพื่อก้าวไปรับปีใหม่ที่จะมาถึงด้วยกัน”

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า กิจกรรมที่ศาลาไหม ซึ่งมี อบจ.ขอนแก่นรับผิดชอบดูแลนั้นจะเป็นในส่วนของการดูแลคู่เสี่ยวที่จะมาผูกเสี่ยว โดยวันแรกนั้นจะเป็นการผูกเสี่ยวคู่เอกที่ส่วนใหญ่เป็นผู้มีชื่อเสียงและข้าราชการระดับสูง โดยมีพ่อพราหมณ์ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้คู่เสี่ยว ในปีนี้จะจัดบ้านคู่เสี่ยวไว้ มีการสาธิตการผูกเสี่ยว รวมถึงการจัดแสดงข่วงเข็นฝ้าย ลำเตี้ยโนนทัน การสาธิตแคนวง การแสดงงูจากหมู่บ้านงูจงอาง การประกวดวงดนตรีพื้นบ้านโปงลาง การประกวดกลองยาว การประกวดพานบายศรี การประกวดลำกลอนประยุกต์ การประกวดทำนองสรภัญญะ และการประกวดร้องเพลงกล่อมลูก นอกจากนี้ยังได้ให้นายอำเภอทุกอำเภอคัดสรรผลิตภัณฑ์และของดีในพื้นที่มาจำหน่ายที่เฮือนโบราณ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อของดีในงานไหม ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์ของคนขอนแก่นให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวและเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดให้ดีขึ้น

“ในปีที่ผ่านมาในช่วงการจัดงาน มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมงานกว่า 700,000 คน โดยปีนี้เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาชมกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น รวมทั้งการช้อปและซื้อผ้าไหมภายในงาน ซึ่งมีการใช้จ่ายสินค้าไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน และในปีนี้จังหวัดได้ฟื้นการจัดกิจกรรมธารากาชาดตามคำเรียกร้องของประชาชนที่ว่า มาเที่ยวงานไหมต้องร่วมกิจกรรมธารากาชาด แม้ของรางวัลจะเล็กน้อย แต่ประชาชนมีความสุข จังหวัดจึงฟื้นกลับมาจัดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในปีนี้เจ้าหน้าที่จะร่วมกันตรวจตราร้านค้าที่ขายสินค้าที่อาจเป็นอาวุธ เช่น ปืนของเล่น มีด พร้า จอบ เสียม ที่อาจถูกนำไปใช้เป็นอาวุธ รวมถึงตรวจสอบร้านที่แฝงการพนัน หากพบให้ตักเตือนหรือจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที”