พริกนับเป็นพืชผักที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี และในท้องตลาดบ้านเรามีพริกหลากหลายสายพันธุ์มากมาย บางชนิดมีลักษณะคล้ายกันจนแยกแทบไม่ออก โดยเฉพาะพริกหนุ่มกับพริกหยวกที่มีลักษณะและสีใกล้เคียงกันมากจนหลายคนงง แต่แท้จริงแล้วทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

ลักษณะของพริกหนุ่ม

• ผลสด: มีหลายรูปร่างและขนาด แต่มักเป็นรูปกรวยกว้างและยาวได้ถึง 30 เซนติเมตร
• สี: เมื่อยังอ่อนมีสีเขียว เหลือง ครีม หรือม่วง เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง หรือสีน้ำตาล
• เมล็ด: แบนรูปโล่ ขนาดใหญ่กว่าเมล็ดพริกขี้หนู สีเหลืองอ่อนหรือสีน้ำตาล
• การบริโภค: นิยมในภาคเหนือ ผลอ่อนนำมาทำน้ำพริกหนุ่ม ต้องการพริกเนื้อหนา สีเขียวค่อนไปทางเขียวอ่อน
• รสชาติ: เผ็ดจัด ช่วยเจริญอาหาร ขับลม ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ใช้เป็นเครื่องประกอบอาหารได้ทั้งผลอ่อนและแก่

ลักษณะของพริกหยวก

• พืชล้มลุกอายุสั้น: ลำต้นเป็นพุ่มเตี้ย สูงประมาณ 1 เมตร
• ใบ: เรียวยาว ขอบใบเรียบ
• ดอก: เดี่ยวสีขาวนวลห้อยลง
• ผล: อ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และสุกจัดจะเป็นสีแดง มีรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมหรือหกเหลี่ยม เนื้อหนา ผิวเรียบเนียน โคนผลใหญ่ ปลายผลเรียวเล็ก
• เมล็ด: แบนสีขาว ขนาดใหญ่กว่าพริกชนิดอื่น เช่น พริกเหลืองหรือพริกชี้ฟ้า
• รสชาติ: แตกต่างจากพริกชนิดอื่นตรงที่แทบจะไม่มีรสเผ็ดเลย

การใช้ประโยชน์และความนิยม

                   พริกหนุ่มนิยมใช้ในภาคเหนือของประเทศไทยในการทำน้ำพริกหนุ่มและอาหารท้องถิ่นอื่นๆ มีรสเผ็ดจัดช่วยเจริญอาหาร ในขณะที่พริกหยวกที่มีรสชาติเบาบางจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความเผ็ด นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารต่างๆ เช่น ผัดไทย สลัด และอาหารตะวันตก

                 พริกทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกันชัดเจน ผู้บริโภคควรเลือกใช้ตามความต้องการและลักษณะของอาหารที่ต้องการปรุงเพื่อให้ได้รสชาติและคุณประโยชน์สูงสุด