น้องชายคลั่งยาบ้าเผาบ้านวอดทั้งหลัง! พี่ชายหนีตาย

ข่าวขอนแก่น Web Cover

น้องชายคลั่งยาบ้าอาละวาดจนแม่และพี่ชายอยู่ด้วยไม่ได้ ล่าสุดจุดไฟเผาบ้านตัวเองจนไฟไหม้วอดทั้งหลัง ก่อนตามหาพี่ชายทั้งไม้ทั้งมีดหวังทำร้าย แต่พี่ชายหนีขอความช่วยเหลือทัน กลับมาเห็นบ้านเข่าแทบทรุด ขณะที่น้องชายบอกกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านด้วยความภูมิใจว่า “เป็นไงฝีมือผม” ตำรวจคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ร.ต.อ.ประภาส ระวินู รอง สว.สอบสวน สภ.มัญจาคีรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเหตุเพลิงไหม้ บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 6 ต.นางาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ขอให้ไปตรวจที่เกิดเหตุด้วย หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิงของ อบต.นางามและพื้นที่ใกล้เคียงไปดับเพลิงยังที่เกิดเหตุ จากนั้นไปตรวจที่เกิดเหตุทันที พบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ประมาณ 1 ชั่วโมงเพลิงก็สงบ พบว่าบ้านเสียหายทั้งหลัง เหลือเพียงเสาบ้านดำเป็นตอตะโก

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้เป็นของนางสมัย เหล็กหล่ม อายุ 58 ปี แต่ขณะเกิดเหตุนางสมัยไม่อยู่บ้าน ที่บ้านมีเพียงนายมนัส เหล็กหล่ม อายุ 33 ปี บุตรชายของนางสมัย อาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง แต่ช่วงเกิดเหตุไม่พบตัวนายมนัส

ขณะที่นายบุญเติม สีลาสม อายุ 58 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า บ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านของนางสมัย อาศัยอยู่กับบุตรชาย 2 คน คือนายอุทิศ เหล็กหล่ม อายุ 39 ปี และนายมนัส เหล็กหล่ม อายุ 33 ปี แต่เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา นายมนัสจะฆ่านางสมัย ผู้เป็นมารดา จนมารดาต้องหนีออกจากบ้านไปอยู่บ้านญาติ เพราะนายมนัสอาละวาดทำลายข้าวของ และรื้อฝาบ้านที่ชั้นสองออกมาทั้งหมด นางสมัยจึงออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับญาติต่างหมู่บ้าน

ก่อนเกิดเหตุ ประมาณเที่ยงคืน นายอุทิศ พี่ชายของนายมนัส วิ่งมาที่บ้านให้ช่วยเพราะถูกนายมนัส ซึ่งในมือมีทั้งไม้มีทั้งมีด ไล่ทำร้ายและจะฆ่าทิ้ง ในขณะเดียวกันนายมนัสก็ตามพี่ชายไปติดๆ โวยวายจะฆ่าพี่ชายให้ได้บอกว่า “มึงโกหกกู มึงโกหกกู” พี่ชายจึงหลบหนีไป นายมนัสจึงบอกว่า “จะเผาบ้านทิ้ง” ตนเองก็พูดสวนไปว่า “จะเผาก็เผาเลยบ้านตัวเอง” ซึ่งไม่คิดว่านายมนัสจะทำจริง จากนั้น นายมนัสก็เดินกลับมาที่บ้าน ประมาณ 30 นาทีก็มีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมา จึงโทรแจ้งตำรวจและแจ้งดับเพลิงมาดับไฟ ส่วนนายมนัสหายตัวไป กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมานายมนัส เดินกลับมาที่บ้าน ซึ่งเป็นช่วงที่ตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุซ้ำ และเป็นช่วงที่มารดาเดินทางกลับมาที่บ้าน จึงพบตัวนายมนัสพอดี ซึ่งนายมนัสพูดด้วยความภูมิใจว่า “เป็นไงฝีมือผม” ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่ผ่านมาเคยบอกตำรวจให้เอาตัวนายมนัสไปบำบัด เพราะอาละวาดบ่อยต้องเผาบ้านตัวเองแน่นอน แต่ทางตำรวจก็บอกว่านายมนัสปกติดี ถ้าอาละวาดจึงค่อยแจ้งมาอีกจึงจะควบคุมตัวไป แต่ก็สายเกินไปเพราะนายมนัสเผาบ้านตัวเองไปแล้ว

ขณะที่นายอุทิศ เหล็กหล่ม อายุ 39 ปี พี่ชายนายมนัส พาผู้สื่อข่าวเดินดูบริเวณบ้านที่ถูกไฟไหม้ จนกลายเป็นเถ้าถ่าน พร้อมกับเปิดเผยว่า น้องชายเสพยาบ้ามานาน และเคยถูกจับในคดียาเสพติด ติดคุกหลายปี พ้นคุกออกมาก็มาเสพยาบ้าต่ออีก จนมีอาการคุ้มคลั่ง โดยในปี 2566 จนถึงปัจจุบัน น้องชายอาการหนัก มารดาและผู้ใหญ่บ้านได้ประสานตำรวจมานำตัวไปบำบัดหลายครั้ง แต่พอตำรวจมาถึงบ้านก็ไม่เอาตัวไป เพราะน้องชายมีอาการปกติ และเมื่อ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา น้องชายอาละวาดอีก และพยายามจะฆ่าตนกับมารดา มารดาจึงหลบไปอยู่บ้านญาติ ส่วนตนก็ออกไปอยู่ทุ่งนา น้องชายได้รื้อฝาผนังของบ้านบนชั้นสองออกจนหมด

ก่อนเกิดเหตุ ประมาณเที่ยงคืน ตนได้กลับเข้ามาดูบ้าน ก็พบกับน้องชายนอนในบ้าน แล้วเกิดอารมณ์ไม่พอใจที่ตนกลับเข้ามาที่บ้าน โวยวายและถือมีด ถือท่อนไม้จะทำร้าย ปากก็บอกว่าจะฆ่าทิ้งแล้วเผาศพไปพร้อมกับเผาบ้าน ด้วยความกลัวจึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน น้องชายก็ตามไปจึงหนีกลับไปที่นา โดยไม่คิดว่าน้องชายจะเผาบ้านจริง จนมองเห็นเปลวไฟจึงเดินกลับมาที่บ้านก็พบว่าบ้านถูกไฟไหม้หมดทั้งหลังแล้ว เชื่อว่าน้องชายลงมือเผาบ้านจริงๆ หลังลงมือเผาบ้านแล้วน่าจะเดินออกจากที่เกิดเหตุ และกลับมาในช่วงสายๆ และถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้

Screenshot

ทางด้าน ร.ต.อ.ประภาส ระวินู รอง สว.สอบสวน สภ.มัญจาคีรี กล่าวภายหลังควบคุมตัวนายมนัส เหล็กหล่ม มาทำการสอบสวนว่า นายมนัสให้การรับสารภาพว่าเผาบ้านเพราะไม่พอใจที่แม่กับพี่ชายไม่อยู่บ้านด้วย จึงเผาบ้านเรียกร้องความสนใจ โดยเผาตู้เสื้อผ้า คิดว่าจะดับไฟได้ แม่กับพี่ชายก็จะกลับมาอยู่ด้วย โดยก่อนจะลงมือเผานั้นได้เสพยาบ้า 1 เม็ด จากนั้นก็ลงมือเผา แต่ไฟลามอย่างรวดเร็ว จึงหนีออกจากบ้านไปนอนที่นา จนตื่นขึ้นมาช่วงสายก็เดินกลับมาที่บ้าน หลังการสอบสวน ได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ที่เป็นโรงเรือนที่คนอยู่อาศัย นำตัวเข้าห้องควบคุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับการตรวจที่เกิดเหตุและการสอบสวนในเบื้องต้นนั้น ทราบว่า นายมนัส เหล็กหล่ม อาศัยอยู่บ้านที่เกิดเหตุเพียงลำพัง ก่อนวันเกิดเหตุ 4 วัน แม่และพี่ชายได้ออกไปจากบ้านเนื่องจากนายมนัสมีอาการคุ้มคลั่งทำลายทรัพย์สิน จึงกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย จนวันเกิดเหตุนายมนัสมีอาการเมายาบ้า คุ้มคลั่งขึ้นอีกครั้ง จึงได้จุดไฟเผาตู้เสื้อผ้าที่ชั้นล่างของบ้าน เพลิงจึงไหม้ลุกลามบ้านทั้งหลัง ทรัพย์สินและบ้านที่เสียหายประมาณ 300,000 บาท

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง