เป็นที่ทราบกันว่าแซลมอนเป็นปลาทะเลน้ำลึกที่มีโอเมก้า 3 สูง แต่ราคาก็สูงตาม ด้วยเหตุนี้เราจึงแนะนำปลาไทย 11 ชนิดที่มีโอเมก้า 3 สูงเป็นทางเลือกที่ดีและประหยัดกว่า สำหรับสายสุขภาพ
11 อันดับปลาไทยที่มีโอเมก้า 3 สูง (ในปริมาณ 100 กรัม)
- ปลาสวาย: 2,111 มก.
- ปลาทู: 1,636 มก.
- ปลาช่อน: 1,052 มก.
- ปลาอินทรีย์: 882 มก.
- ปลาน้ำดอกไม้: 765 มก.
- ปลาเนื้ออ่อน: 622 มก.
- ปลาดาบเงิน: 516 มก.
- ปลากระพงแดง: 459 มก.
- ปลาจะละเม็ดขาว: 430 มก.
- ปลากระพงขาว: 360 มก.
- ปลาดุกอุย: 258 มก.
โอเมก้า 3: สารอาหารสำคัญเพื่อสุขภาพ
โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFAs) ที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากอาหารภายนอก มีประโยชน์ต่อสมอง หัวใจ และดวงตา
ประโยชน์ของโอเมก้า 3
- บำรุงสมอง: เพิ่มความจำ การเรียนรู้ ลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม
- บำรุงสายตา: ป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม โรคตาแห้ง และต้อกระจก
- บำรุงหัวใจ: ลดความดันโลหิต ลดไตรกลีเซอไรด์ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ลดอาการอักเสบ: บรรเทาอาการปวดข้อ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคหอบหืด
- บำรุงสุขภาพจิต: ลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้าและโรคไบโพลาร์
- ควบคุมน้ำตาล: ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3
- ปลาทะเลน้ำลึก: แซลมอน ทูน่า ซาร์ดีน แมคเคอเรล
- ถั่วและเมล็ดพืช: วอลนัท ถั่วเหลือง เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย
- น้ำมันพืช: น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันคาโนลา
การรับประทานโอเมก้า 3
ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 250-500 มิลลิกรัม สำหรับผู้ใหญ่ ควรทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หากไม่สามารถรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เพียงพอ สามารถทานอาหารเสริมได้โดยปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน
โอเมก้า 3 เป็นสารอาหารที่สำคัญช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สมองเฉียบคม และดวงตาสดใส เลือกทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีและชีวิตที่มีคุณภาพ
Leave a Response