ช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด ตระเวนเข้าวัด ขโมยกล้องขาย ตร.จับได้อ้างเงินเดือนไม่พอ

IMG_4037

รวบช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด ทำทีมาหาลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัด ใช้อุบายยจะตรวจเช็กกล้องให้ เจ้าอาวาสวัดดูท่าทีเห็นพฤติกรรมผ่านกล้องวงจรปิดตั้งแต่เข้ามาในวัดจนตะโกนเรียกแต่ไม่กล้าออกไปกลัวเกิดอันตราย สุดท้ายก่อเหตุขโมยกล้องไป 2 ตัว โดยนำไปขายให้กับลูกค้าในราคาถูกกว่าราคาตลาดอ้างเงินค่าจ้างไม่เพียงพอใช้จ่ายในครอบครัว

ชมคลิป

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 1 พ.ค.67 พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน พร้อม ด้วย ร.ต.อ.พเยาว์ พลล้ำ รองสว.สืบสวนสภ.เวฬุวัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคุมตัวนายไพรวัลย์ แสงจันทร์ อายุ 40 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 27/1 ม.1 ต.ยางนอน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาในคดี ลักทรัพย์ ในสถานที่เคารพบูชา โดยใช้ยานพาหนะ  ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่วัดชัยสิทธิ์ บ้านนาเพียงหมู่ 4  ตำบลสำราญ อำเภอเมืองขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา โดยในวันก่อเหตุ คนร้ายได้กล้องวงจรปิดที่ติดอยู่เสาไฟฟ้าและศาลาการเปรียญ รวม  2 ตัว รวมมูลค่า 9,800 บาท หลบหนีไป 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เวฬุวัน ได้ลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้าย จนพบภาพจากกล้องวงจรปิดในวัด ทราบรายละเอียดของคนร้ายจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ซึ่งไม่ใช่คนในพื้นที่ และชุดสืบสวนได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวัดไปสืบสวนหาตัวคนร้าย จนทราบว่าคนร้ายมักเข้าออกวัดหลายแห่งในพื้นที่ โดยทำทีเป็นช่างซ่อมกล้องวงจรปิดที่มีปัญหา

 

ล่าสุดทราบว่าผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้าย กำลังติดต่อรับงานซ่อม ที่วัดบ้านโคกท่า ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ชุดสืบสวนจึงปลอมตัวเป็นช่างเข้าไปซ่อมแซมวัด และพบตัวนายไพรวัลย์ ตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์กล้องวงจรปิดภายในวัดชัยสิทธิ์ บ้านนาเพียง จึงควบคุมตัวไว้พร้อมรถจักรยายนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีดำแดง ไม่ติดทะเบียน 1 คัน หมวกกันน็อค 1 ใบ คุมตัวไปสอบสวน

นายไพรวัลย์ ให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุขโมยกล้องวงจรปิดภายในวัดชัยสิทธิ์ไปจริง จากนั้นนำไปที่ร้านรับจำนำในเมืองขอนแก่น ในราคา  200 บาท ส่วนกล้องวงจรปิดอีกตัวไม่สามารถจำนำได้ จึงได้เก็บไว้ที่ห้องพักที่บ้านเช่า ไม่มีเลขที่ ที่บ้านแดงน้อย ตำบลแดงใหญ่ อำเภอเมืองขอนแก่น 

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจสอบประวัตินายไพรวัลย์ พบว่า มีประวัติเคยต้องโทษในคดีลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง เมื่อพ้นโทษออกมา ก็ไปเป็นลูกจ้างในร้านติดตั้งกล้องวงจรปิด ที่บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ส่วนนายไพรวัลย์ มาเช่าบ้านอยู่ที่จ.ขอนแก่น เพื่อหาลูกค้าที่จะติดกล้องวงจรปิด เพื่อเอาเปอร์เซ็นจากบริษัทตัวละ 600 บาท ใน 1 เดือนจะหาลูกค้าได้ประมาณ 30 ราย แต่การก่อเหตุในครั้งนี้ อ้างว่าเงินไม่พอใช้ในครอบครัว จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

หลังการทำแผน นายไพรวัลย์ ได้กราบขอขมาโทษ พระธรรมา แกะเฮ้า อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดชัยสิทธิ์ ซึ่งผู้ต้องหาได้นั่งประนมมือและกราบขอขมากับเจ้าอาวาสในสิ่งที่กระทำลงไป ซึ่งทางเจ้าอาวาสได้ถามผู้ต้องหาว่าเป็นเซลล์มาก่อนใช่หรือไม่ โดยผู้ต้องหารับว่าเป็นเซลล์โดยอ้างว่าวันเกิดเหตุนั้น จะมาสอบถามว่ากล้องดูได้หรือไม่ แต่หลวงพ่อไม่ตอบรับจึงลงมือก่อเหตุ และอ้างว่าเพิ่งกลับมาจากอุดรธานี ก่อเหตุเอากล้องวงจรปิดที่วัดไป 2 ตัวเท่านั้น แต่ทางเจ้าอาวาสบอกว่า นั่งดูพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุตั้งแต่เข้ามาในวัดแล้วมาตะโกนเรียก แต่ไม่กล้าเดินออกไปจากกุฏิ เพราะว่ากลัวจะเป็นอันตราย  และเจ้าอาวาสยังบอกอีกว่า ได้เอารูปของผู้ต้องหาไปสอบถามพระสงฆ์ที่วัดต่างๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คล้ายกับคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุลักขโมยกล้องวงจรปิดเช่นกัน และเจ้าอาวาส ได้สอนว่าอย่าทำอีก มีอะไรก็มาขอหลวงพ่อได้ อย่าสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ถ้าออกจากคุกมา อย่าทำอีก ผิดกฎหมายบ้านเมือง ทั้งเป็นบาปเป็นกรรม ถ้าอย่างมั่งอยากมีอย่าขโมยของคนอื่น และให้อภัยกับผู้ก่อเหตุ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป//////////////

 

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง