สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เผยหลังเทศกาลสงกรานต์ พบผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หลังจากก่อนหน้านั้นพบผู้ป่วยเฉลี่ย 20 – 30 คนต่อสัปดาห์ โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยรวม 398 คน ปอดอักเสบประมาณ 12 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 3 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 และมีโรคประจำตัวร่วมด้วย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต

วันที่ 24 เมษายน 2567 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น นายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงภาพรวมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีนับจากวันที่ 1 ม.ค. จนถึงวันนี้นับเป็นสัปดาห์ที่ 15 ของการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งจะมีการรายงานทุกสัปดาห์ โดยปัจจุบันจังหวัดขอนแก่น มีผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน จำนวน 398 ราย ซึ่งหากนับเฉพาะในช่วงต้นปีมาถึงช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ มีผู้ป่วยเฉลี่ยประมาณ 20 – 30 คนต่อสัปดาห์ แต่ภายหลังจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 14 – 20 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า เพิ่มขึ้นเป็น จำนวน 68 ราย หรือเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า โดยมีผู้ป่วยปอดอักเสบประมาณ 12 ราย (ในเสียงสัมภาษณ์ นพ.สสจ. บอกจำนวนผิด) ใส่ท่อช่วยหายใจ 3 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 และมีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้ในจังหวัดขอนแก่น ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 

นายแพทย์อภิชัย กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น คือ การรวมตัวกันของคนจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก มีการสัมผัสกันมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเป็นปัจจัยในลักษณะเดียวกันทั้งประเทศ จะเห็นว่าตอนนี้เราไม่ได้คำนึงถึงการเว้นระยะห่าง การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัยเหมือนแต่ก่อน ก็ทำให้เกิดโรคติดต่อทางเดินหายใจกันได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าโรคโควิด-19 จะถูกประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่น และอาการไม่รุนแรงเหมือนช่วงที่มีการแพร่ระบาดแรก ๆ แต่ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังรณรงค์ในการสวมใส่หน้ากากอนามัย และการป้องกันตนเองอยู่เพื่อความปลอดภัย/