ตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุเผานั่งยางในบ่อขยะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่ายหน้าให้การภาคเสธไม่ได้ฆ่า ยอมรับว่าเผาศพเองเพราะกลัวความผิด เผยปมสืบสวนตั้งธงผู้ตายเปลี่ยนจากทอมไปมีแฟนเป็นผู้ชาย
ชมคลิป
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สมมาตย์ มั่งไธสง ผกก.สภ.แวงน้อย พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น ร่วมกันสรุปหลังการสอบสวน น.ส.ไพจิตร คนคิด หรือไก่ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172 หมู่ที่ 4 ต.ละหานา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาในคดี ลักทรัพย์หรือรับของโจร ช่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ่อขยะ โดยผู้ต้องหาได้ขับรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทะเบียน 1กค-4384 กรุงเทพมหานครไปจอดบนถนนรอบบ่อขยะ โดยในรถนั้นมีศพผู้ตายที่ถูกห่อด้วยผ้าขาวม้าและที่นอนปิคนิคไว้ที่หลังรถ ส่วนที่เบาะหลังนั้นได้วางรถยนต์ 2 เส้น ส่วนแกลลอนน้ำมันวางไว้ที่วางเท้าของเบาะรถด้านหน้าข้างคนขับ
จากนั้นผู้ต้องหาได้อุ้มร่างคนตายลงจากรถไปวางไว้ที่ขอบบ่อขยะ แล้วขนยางรถยนต์นำไปสไลด์ลงไปที่บ่อขยะทั้ง 2 เส้น จากนั้นลากร่างคนตายไปยัดใส่ยางรถยนต์ แล้วราดน้ำมัน ทำการเผานั่งยางคนตาย แล้วก็กลับบ้าน
ส่วนการขนย้ายร่างคนตายจากบ้านพักของเป้ ที่จังหวัดสมุทรปรากการ หลังจากเป้สำลักอาหารแล้วสิ้นใจ ผู้ต้องหากลัวจะมีความผิดและกลัวถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตาย จึงรีบเอาผ้าขาวม้า และที่นอนปิกนิกห่อร่างคนตาย ลากไปใส่ท้ายรถ แล้วเอากล่องบรรจุสิ่งของวางทับไว้ จากนั้นก็ขับรถกลับมาบ้านที่อ.แวงน้อย แล้วก็จัดการหายางรถยนต์ที่มีคนวางทิ้งในหมู่บ้านเอาไปเผานั่งยางผู้ตายที่บ่อขยะ ก่อนจะปล่อยศพไว้ในรถกระทั่งวันต่อมาไปรับลูกกลับจากโรงเรียน เวลา 16.00 น.แล้วไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะมุ่งหน้ามาที่บ่อขยะแล้วลงมือเผาทันที โดยลูกอยู่เบาะหน้าภายในรถเก๋งคันที่ใช้ขนศพ
ภายหลังการทำแผน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า การสอบสวน นางสาวไก่ นั้น ยอมรับเพียงว่า ได้นำร่างของเป้มาผานั่งยางที่บ่อขยะ ในช่วงเย็นวันที่ 13 กพ.2567 จริงๆ แต่ไม่ได้ฆ่า เพราะเป้สำลักข้าวแล้วหมดสติเสียชีวิตเอง ซึ่งในจุดนี้ ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ยังต้องสอบสวนพยานแวดล้อม รวมทั้งสอบสวนญาติผู้ตาย และการที่นำร่างผู้ตายใส่ท้ายรถเก๋งไว้นั้น ก่อนจะนำไปเผานั่งยางนั้น ผู้ต้องหาใช้ชีวิตอย่างไร เพราะเท่าที่ทราบผู้ต้องหามีบุตรบุญธรรม 1 คนที่ต้องไปรับและส่งที่โรงเรียน และยังต้องดูแลพ่อแม่ ซึ่งยังต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมในส่วนที่พนักงานสอบสวนติดใจ
จากการรับสารภาพในขณะนี้ ผู้ต้องหาให้การว่า ทำทุกขั้นตอนคนเดียว ไม่มีใครอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย และไม่มีความเคียดแค้นกับผู้ตาย เป็นเพียงแค่การไม่กล้าบอกญาติ ไม่กล้าแจ้งตำรวจเพราะกลัวความผิด แต่การนำศพมาเผานั่งยาง ก็มีความผิดในข้อหา ลักทรัพย์หรือรับของโจร ช่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย เพราะรถเก๋งคันที่ใช้บรรทุกศพมาจากจังหวัดสมุทรปราการนั้น เป็นของผู้ตาย จึงถูกจับกุมในข้อหา ลักทรัพย์หรือรับของโจร ส่วนการขนย้ายศพคนตาย และเผานั่งยางนั้น ได้แจ้งข้อหาช่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย
ในขณะที่ผู้ต้องหาไม่ตอบคำถามใดใดกับผู้สื่อข่าวตั้งแต่ช่วงการทำแผนจนถึงเข้าห้องควบคุมตัวของสภ. แวงน้อย จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าผู้ต้องหามีอาการเครียดไม่ยอมรับประทานอาหารเช้า ขณะที่ญาติพี่น้องได้นำอาหารมาให้แต่ก็ยังไม่ยอมทาน ซึ่งทางตำรวจก็จะทำการดูแลในส่วนนี้ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาเกิดความเครียดและทำร้ายตัวเอง
นอกจากนี้ทางด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่ายังให้การรับสารภาพที่ยังไม่เคลียร์ ยังมีประเด็นที่น่าสงสัยที่ยังต้องสืบสวนสอบสวนต่อ เนื่องจากทั้งคู่คบหากันใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน คนตายเป็นดี้ ส่วนนางสาวไก่เป็นทอม ที่ใช้ชีวิตภายในบ้าน นางสาวไก่ด้วยกันมา 7 ปี แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นางสาวไก่เปลี่ยนคราบตัวเองจากทอม มาเป็นหญิงสาวเต็มตัว และมักจะบอกกับคนอื่นว่าตัวเองโสด จนมีปัญหาชีวิตคู่ สุดท้ายเป้ก็เสียชีวิต และการชันสูตรศพก็มีบาดแผลของมีคมที่แผ่นหลังคนตาย จึงยังไม่เคลียร์ ในคำรับสารภาพของนางสาวไก่ ที่จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อไปอีก หากพบมีคนที่เกี่ยวข้องก็ต้องทำการจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายและแจ้งข้อหาเพิ่มกับ นางสาวไก่//////////
Leave a Response