เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 5 ธ.ค. 2566 นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น  เปิดเผยว่า จากการตรวจคิดตามการดำเนินการรับลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบ ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยพบว่า ขณะนี้ขอนแก่น มีลูกหนี้นอกระบบในพื้นที่มาลงทะเบียนทั้งหมด 1,012 ราย มูลหนี้รวม 66 ล้านบาท

ชมคลิป

“สำหรับเจ้าหนี้ อยู่ระหว่างทำการสำรวจภาพรวมทั้ง 26 อำเภอ และการเร่งเก็บข้อมูลจากลูกหนี้ ซึ่งก็ต้องแยกประเภทและรายละเอียดออก เพราะบางทีหนี้นอกระบบไม่ใช่นายทุนเสมอไป อาจจะเป็นญาติยืมกันหรือยืมกันในหมู่บ้านไปประกอบอาชีพ หรือเป็นแก๊งค์ดอกเบี้ยเงินกู้สูงๆและมีพฤติกรรมโหดเหี้ยมในการทวงถามข่มขู่ ก็ต้องแยกออกมา เพราะถ้าดอกเบี้ยสูง และมีการข่มขู่ด้วย ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลที่จะต้องจัดการ”

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ทั้งหมดจะต้องมีการคัดกรองอีกที  และต้องจัดการทุกราย แต่ต้องมีเหตุผลในการจัดการ โดยเฉพาะการเรียกมาไกล่เกลี่ยเพื่อให้การดำเนินงานนั้นสัมฤทธิ์ผล ขณะคนที่คนที่อยู่ในข่ายผู้มีอิทธิพล ที่โหดเหี้ยมข่มขู่ หรือมีการยิงกัน ได้กำชับว่าต้องแจ้งความ ต้องจัดการ และต้องคุยกันให้รู้เรื่องทั้งหมด จากนั้นตำรวจและปกครองจะคุยกันว่าจะมีกระบวนการขั้นตอนจัดการอย่างไร

“หลังจากทำงานในเรื่องหนี้นอกระบบ ก็จะมีการประเมินและรายงานทุกระยะ ซึ่งตอนนี้ได้มีการประชุมทุกสัปดาห์ มีการติดตามผลงานหรือสิ้นเดือนแถลง 1 ครั้ง แต่สิ่งที่กังวลก็คือที่ผ่านมา รับเรื่องและส่งต่อให้สถาบันการเงินที่อยู่ในระบบ ปรากฏว่าทุกธนาคารไม่มีนโยบายไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ไม่ได้ ดังนั้นวันที่ 8  ธค.นี้ จะไปรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีว่าจะมอบนโยบายให้กับผู้ว่าฯในเรื่องนี้อย่างไร มีนโยบายที่จะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องการแก้หนี้นอกระบบอย่างไรบ้างจะให้สถาบันการเงินมารับผิดชอบได้อย่างไร อย่างไรก็มองว่าถ้าเราสามารถแยกได้ คนที่น่าเชื่อมากที่สุดก็คือคนที่ไปกู้มาเพื่อที่จะลงทุน และมันอาจจะไปเกิดในช่วงโควิดค้าขายไม่ได้หรือแม้กระทั่งการส่งลูกเรียนก็ถือว่าเป็นการลงทุนทั้งหมดเราต้องช่วย แต่ถ้าไปกู้หนี้จากวงพนันหรือจากการค้ายาเสพติดก็ต้องดูอีก เพราะว่ามันเป็นหนี้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็จะคงได้หารือกับทางอัยการคุ้มครองสิทธิ์ว่าเราจะดูแลและช่วยเหลืออย่างไร”