รับขวัญโอโน่ หนุ่มอ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น แรงงานไปทำงานที่อิสราเอล ถูกกลุ่มฮามาสบุกยิงถึงโรงงานและแคมป์ กระสุนทะลุบั้นท้าย และเข้าหลัง ก่อนวิ่งหนีไม่คิดชีวิตกระทั่งทหารเข้ามาช่วยผ่าตัดที่โรงพยาบาลปลอดภัย ส่งกลับถึงขอนแก่น ครอบครัวผูกแขนรับขวัญอบอุ่น ดีใจถึงบ้าน เผยพกผ้าซิ่นยายและแม่ติดตัวคุ้มครองถูกยิงไม่ตาย
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 14 ตุลาคม 2566 คณะของนางอรวรรณ หินตะ แรงงานจังหวัดขอนแก่น และนางอัจฉรา เจริญผล นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดขอนแก่นนำผดุงหรือโอโน่ บุตโม อายุ 26 ปี แรงงานคนไทยชาวขอนแก่น ถูกยิงเข้าที่บั้นท้ายและบริเวณหลังรวมสองนัดภายในแคมป์คนงานที่ประเทศอิสราเอลพร้อมมารดา แม่ยายและนางสาวสุพัตรา อาสานอก อายุ 28 ปี ภรรยาเดินทางกลับถึงบ้านพัก เป็นที่เรียบร้อย
โดยโอโน่ ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านแม่ยาย คือนางพั่ว อาสานอก อายุ 54 ปี ที่บ้านเลขที่ 25 ม.5 บ้านหนองสรวง ต.ดงเค็ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โดยทันที ที่โอโน่ลงจากรถตู้ นางโง สดศรี อายุ 88 ปี ซึ่งเป็นมารดาของนางพั่ว และเป็นยายของน้องเหมียว ได้นำปั้นข้าวเหนียว มากวาดที่ร่างกายของโอโน่ เพื่อปัดเป่า สิ่งชั่วร้าย และไม่ดีออกจากตัวโอโน่ ให้มีชีวิตที่ดีสุขภาพที่ดี อยู่เย็นเป็นสุข จากนั้นจึงให้โอโน่เดินเข้าบ้าน ท่ามกลางพ่อแม่ ญาติพี่น้องที่รอต้อนรับด้วยความอบอุ่น จากนั้นญาติพี่น้องร่วมกันผูกข้อมือให้โอโน่ และร่วมรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดขอนแก่น ก็เดินทางกลับออกไป พร้อมทั้งไปส่งนางบุญโฮม บุตโม อายุ 50 ปี มารดาของโอโน่ กลับบ้านที่บ้านเลขที่ 277 ม.2 บ้านคำม่วง ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น โดยก่อนเดินทางกลับ นางบุญโฮม กล่าวว่า กลับบ้านก่อน เพื่อเก็บเสื้อผ้า และจะมาหาลูกชายอีกครั้งพร้อมกับบิดาในวันถัดไป
ขณะที่โอโน่ กล่าวกับผู้สื่อข่าว ว่า เหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นเร็วมาก โดยกลุ่มก่อการร้าย โจมตีอิสราเอลทั้งทางอากาศ และทางพื้นดิน กลุ่มฮามาส บุกมาที่โรงงานและแคมป์ที่พักคนงาน รัวยิงหลายนัด แรงงานไทยจึงลุกขึ้นวิ่งหนี กลุ่มฮามาส ก็ยังไม่หยุดทั้งปาระเบิดและเผาที่พักแรงงานไทย ทำให้แรงงานไทย 1 คนถูกไฟไหม้ในแคมป์คนงาน อาการสาหัส
“ผมวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต มีเพียงกระเป๋าสะพายใบเดียวที่พกติดตัว ถูกยิงเข้าที่ช่วงล่าง ผมกับเพื่อนพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้านายและจากทหาร จากสถานทูต จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง จึงมีทหารมาช่วยไปอยู่ณ สำนักงานไปรษณีย์ที่เป็นแคมป์ของทหารอิสราเอล จากนั้นทหารจึงนำส่งรพ.เพื่อผ่าเอากระสุนออก จากนั้นก็มีคนไทย เข้าไปช่วยเหลือ นำตัวออกจากรพ.ไปอยู่บ้านพัก และมีการติดต่อประสานงานกับทางทหารและทางอิสราเอล รวมถึงสถานทูต เพื่อทำเอกสารสำคัญต่างๆเพื่อเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย จนทุกอย่างเรียบร้อย จึงได้เดินทางกลับ”
น้องโอโน่ กล่าวอีกว่า ทันทีที่เครื่องบินแตะพื้นแผ่นดินไทย ก็รู้สึกว่า ปลอดภัยแล้ว มาถึงบ้านแล้ว เมื่อลงจากเครื่องบินก็เจอหน้าแม่ หน้าเมีย หน้าแม่ยาย รู้สึกอบอุ่นมาก จากนั้นมีหน่วยแพทย์ จาก รพ.บางพลี มารับตัวหไปตรวจร่างกายและตรวจบาดแผล ซึ่งทุกอย่างผ่านไปด้วยดี และถูกปล่อยให้กลับบ้านที่อ.หนองสองห้องพร้อมมารดาและภรรยา
การรอดชีวิตในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ เศษผ้าถุงของยายและมาดาที่พกติดตัวไป และฝากขอบคุณ คุณแจ๋ม คุณน้อง คนไทยที่เป็นล่ามให้และคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในช่วงวิกฤติที่ประเทศอิสราเอล และขอบคุณกระทรวงแรงงาน ของคุณแรงงานจังหวัดขอนแก่น จัดหางานจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่นำรถตู้ไปรับจากสนามบิน กลับมาถึงบ้านที่จังหวัดขอนแก่น
จากนี้ไปก็จะพักรักษาตัวให้ร่างกายแข็งแรง ค่อยคิดค่อ ยวางแผนว่าจะไปทำงานที่ประเทศไทย แต่จะไม่ไปที่ประเทศอิสราเอลเด็ดขาด เข็ดแล้ว เสี่ยงชีวิตมาก จึงอยากให้แรงงานไทยในอิสราเอล ตัดสินใจกลับบ้าน เพราะเกรงว่าจะเสียชีวิตกับเหตุรุนแรงในประเทศอิสราเอล จึงขอให้กลับมาตั้งหลักที่บ้านดีกว่า
Leave a Response