สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดขอนแก่นล่าสุดยังทรงตัว  หากฝนไม่ตกตกลงมาเพิ่มเติมจะเริ่มลดลงเรื่อยๆ ขณะที่จุดท่วมซ้ำซากยังอ่วม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ ที่โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดจังหวัดขอนแก่น

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 16 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวยังคงติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่จังหวัดขอนแก่น โดยเฉพาะในพื้นพื้นที่โดยรอบเขตเศรษฐกิจเมืองขอนแก่นซึ่งพบว่า ระดับน้ำยังคงทรงตัว น้ำยังคงท่วมสูงบนถนนหลายสายที่เป็นจุดท่วมซ้ำซากโดยเฉพาะที่ถนนบ้านกอกช่วงหน้ามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือยาวไปจนถึงสามแยกโรงเรียนบ้านกอก โดยในจุดนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 20-30 เซนติเมตรรถเล็กดับเสียหลายคันเนื่องจากน้ำไหลเข้าท่อไอเสียการค้าขายสองฝั่งถนนบ้านกอกต้องปิดเป็นแถวยาวเนื่องจากน้ำเอ่อล้นท่วมฟุตบาทเข้าไปในตัวอาคารบ้านเรือนร้านค้า  ซึ่งเจ้าของบ้านต้องนำกระสอบทรายมากั้นปิดทางน้ำไว้ไม่ให้มวลน้ำทะลักเข้าสร้างความเสียหายใน

นอกจากนี้น้ำยังได้ท่วมถนนสายหลักและสายรองอีกหลายสาย ทั้งถนนรอบบึงหนองโคตร ถนนมะลิวรรณ ถนนมิตรภาพ ซึ่งแต่ละจุดเป็นจุดที่มีการท่วมซ้ำซาก โยระดับน้ำยังคงท่วมสูงตั้งแต่ 20 ถึง 50 เซนติเมตร ซึ่งยังคงทรงตัวรอการระบาย หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มก็คาดว่าจะใช้เวลาหนึ่งถึงสองวัน จึงกลับสู่สถานการณ์ปกติทั้งหมด

ขณะเดียวกันสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่บ้านคำไฮ หมู่ 10 ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน แต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา รวมในพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีการเรียนการสอนตามปกติและทางโรงเรียนได้มีการอพยพทรัพย์สินอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอน และนักเรียนทั้งหมดอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งทางด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วมภายในโรงเรียนและหมู่บ้านโดยรอบ

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นพร้อมรองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า จากการรายงานสถานการณ์น้ำในเขตเมืองขอนแก่น พบว่าปริมาณฝนที่ตกตกลงมาอย่างต่อเนื่องมีปริมาณ 145 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในเขตเทศบาลบ้านเป็ด 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งได้ระบายลงบึงหนองโคไปแล้ว 0.65 ล้านลูกบาศก์เมตรน้ำค้างอยู่รอบโรงเรียนคนตาบอด 0.25 ล้านลูกบาศก์เมตร กระจายตามพื้นที่ อื่นๆ0.15 ล้าน ลบ.ม. และยังมีน้ำไหลมาเติมอีก 0.45 ลบ.ม. คาดว่าจะใช้เวลาระบายจากถนนมะลิวรรณอีก 1-2 วัน และที่จุดโรงเรียนคนตาบอด 5-7 วัน หากไม่มีฝนมาตกเพิ่มโดยหากเร่งการสูบระบายน้ำและเปิดทางน้ำหน้าวัดไทรทองได้จะทำให้น้ำระบายเร็วขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากน้ำท่วมฉับพลันแล้ว ยังมีรายงานความเสียหายของต้นไม้ใหญ่ล้มทับเสาไฟฟ้า แรงสูงขาด ในซอยมิตรภาพ 27 เส้นทางลัดระหว่างโรงพยาบาลศรีนครินทร์กับค่ายศรีพัชรินทร์ ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้โดยทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอยู่ระหว่างลงพื้นที่ซ่อมแซมและเคลียพื้นที่ดังกล่าวให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด