เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาผักผลไม้ ที่ตลาดรถไฟขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังพบว่า ขณะนี้ผลไม้กลุ่มแตงโมมีราคาจำหน่ายปรับสูงขึ้นจากเดิม กก.ละ 4 บาท ซึ่งจากการสอบถามพ่อค้า-แม่ค้า ต่างบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนทำให้แตงโมไม่ติดลูก ผลผลิตจึงออกมาน้อย ประกอบกับค่าขนส่งที่แพงขึ้นเนื่องจากค่าน้ำมันยังคงสูงอยู่

นายปิยะ พลละ อายุ 49 ปี เจ้าของร้านแตงโมแม่สาย กล่าวว่า ช่วงฤดูฝนเช่นนี้ทำให้แตงโมปรับราคาขึ้นมาประกอบกับ ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าขนส่ง ค่าน้ำมัน ทุกอย่างทำให้ต้นทุนสูงขึ้นทั้งหมด พ่อค้า-แม่ค้าแตงโมต้องปรับราคาไปตามกลไกการตลาด

“ฤดูฝนจะปลูกแตงโมได้น้อยเพราะเถาของต้นจะไม่โต บางส่วนที่ถูกฝนจะเหี่ยวตายไปทำให้ติดลูกผลน้อยคนจึงไม่นิยมปลูกในช่วงฤดูฝน ทำให้ราคาปรับขึ้นมา กก.ละ 4 บาท จากเดิมขายส่งกก.ละ 10 บาท สัปดาห์นี้ปรับขึ้นมาเป็น กก.ละ 14 บาท ที่ร้านจึงใช้วิธีการคำนวณกิโลกรัมและขายเป็นลูก เริ่มต้นลูกละ 70 บาท แต่บางร้านก็ขายเป็นกิโลกรัม ซึ่งถ้าขายเป็น กก.จะตก กก.ละ 22-23 บาท ถือว่าราคาสูง แต่ถ้าเป็นฤดูกาลที่แตงโมเยอะๆจะตกอยู่ กก.ละ 12-13 บาท อย่างไรก็ตามสำหรับแตงโมช่วงนี้จะรับมาจาก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หลังจากนี้อีก 2-3 เดือนจะเป็นแตงโมจากภาคอีสานออกมา ซึ่งคาดว่าช่วงนั้นราคาแตงโมจะลดราคาลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ”

ด้านนางเช้า ภูผาทอง อายุ 64 ปี เจ้าของร้านพ่อขุนแผนแตงโม กล่าวว่า ช่วงนี้ราคาแตงโมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มปรับขึ้นราคามาตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ยอมรับว่า ต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่รายรับน้อยลงเพราะต้องขายราคาเท่าเดิม สาเหตุที่แตงโมขึ้นราคาช่วงนี้เพราะว่าค่าปุ๋ยที่ราคาแพง ค่าขนส่ง ค่าน้ำมัน และช่วงนี้นี้เป็นฤดูฝนทำให้ผลผลิตเสียหายเยอะ จึงมีผลผลิตออกมาน้อยจึงทำให้ราคาปรับขึ้น ส่วนใหญ่แตงโมช่วงนี้จะรับมาจากเชียงใหม่ และที่ร้านขายอยู่ 2 สายพันธุ์ คือทัมอัพและซันญ่าเพราะ จะได้รับความนิยมอย่างมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ