ขอนแก่นคุมตัวมือฆ่ายัดกระสอบทำแผนเจอรุมประชาทัณฑ์ (มีคลิป)

202308-005

ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ คุมตัวนายชัยผู้ต้องหาฆ่ารุ่นน้องยัดกระสอบทิ้งสระน้ำข้ามหมู่บ้าน อ้างคนตายโอ้อวดเรื่องรอยสักอยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า เป็นชนวนเหตุใช้จอบทุบท้ายทอยและใบหน้าเสียชีวิตคาที่ ขณะที่บรรยากาศชาวบ้านกลูกันเข้าไปรุมประชาทัณฑ์

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 สิงหาคม 2566 พ.ต.ท.มนตรี สุปะตำ รอง ผกก.สืบสวน สภ.บ้านไผ่ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ประนอม มะลาหอม รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ พร้อมทีมชุดสืบสวน และสายตรวจ สภ.บ้านไผ่ คุมตัวนายวิชัย คูหา อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาฆ่าผู้นายกนกพล วงษาวัตร อายุ 37 ปี ทั้งคู่เป็นชาวบ้านโสกตลิ่ง ตำบลในเมือง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งกำหนดจุดทำแผนไว้สองจุดคือจุดที่เกิดเหตุฆาตกรรมและจุดที่ทิ้งศพอำพราง

จุดแรก ร้านอาหารในหมู่บ้านที่เกิดเหตุฆาตกรรม
โดยบรรยากาศในจุดแรกนั้นซึ่งเป็นร้านอาหารในหมู่บ้านที่ทั้งคู่อยู่ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายวิชัยลงจากรถ ทั้งภรรยาผู้เสียชีวิตและชาวบ้านต่างตะโกนสาปแช่ง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันดูแลรักษาความสงบตลอดช่วงที่มีการทำแผนในจุดนี้ โดยการทำแผนนั้นนายวิชัย ให้การว่าช่วง 4 โมงเย็นนั้นพากันนั่งดื่มกินบนแคร่ไม้ไผ่ ข้างร้านซึ่งเป็นร้านของพี่สาวในวิชัยผู้ก่อเหตุ โดยช่วงที่คนอื่นๆออกไปซื้ออาหารและอยู่ลำพังกับนายกุ้งผู้ตายก็มีการพูดคุยกันตามปกติแต่ต่างคนต่างเมานายกุ้งก็เริ่มพูดไม่เข้าหู พูดเกี่ยวกับรอยสักตัวเองที่สามารถอยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า ทำให้นายวิชัยไม่พอใจใช้จอบที่อยู่ใกล้ๆ ทุบเข้าที่ท้ายทอยของนายกุ้งจึงนอนกองกับพื้นก่อนจะทุบซ้ำอีกครั้งแล้วหาวิธีทำลายศพปิดบังความผิด โดยได้นำกระสอบถุงปุ๋ยซึ่งอยู่บริเวณใกล้ๆนำศพนายกุ้ง ยัดใส่กระสอบถุงปุ๋ยสามใบ แล้วยืมรถซาเล้งเพื่อนบ้านมาขนศพ โดยไหว้วานเพื่อนบ้านอีกคนมาช่วยยกโดยอ้างว่าจะขนศพสุนัขไปทิ้ง ก่อนจะขับรถซาเล้งออกไปลำพังโดยศพอยู่ในรถแล้วนำไปทิ้งที่ริมสระในพื้นที่บ้านโสกจาน ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตรจากหมู่บ้านตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนจะคุมตัวไปทำแผนยังจุดที่สองเป็นจุดที่ทิ้งศพ

ซึ่งบรรยากาศช่วงทำแผนในจุดแรกเสร็จนั้นชาวบ้านต่างลุกฮือกันเข้าไปรุมประชาทัณฑ์นายวิชัย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันรักษาความสงบกันมวลชนไม่ให้เข้าไปทำร้ายผู้ต้องหาก่อนจะรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถขับออกไปยังจุดที่สองอย่างรวดเร็ว

จุดที่สอง นำศพมาทิ้งลงริมสระน้ำสาธารณะ
โดยในจุดที่สองนี้เป็นจุดที่นายวิชัยนำศพของนายกุ้งมาทิ้งลงริมสระน้ำสาธารณะโดยบรรยากาศยังคงคงมีชาวบ้านเดินทางตามมาเพื่อดูการทำแผน พร้อมทั้งตะโกนด่าทอสาปแช่งตลอดช่วงของการทำแผนด้วยความโกรธแค้น ที่ผู้เสียชีวิตต้องมาถูกนายวิชัยฆ่าตาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือกับชาวบ้านเพื่อไม่ให้เข้ามาก่อเหตุความไม่สงบขึ้นในช่วงของการทำแผนก่อนที่จะนำตัวนายวิชัยขึ้นรถเตรียมส่งฟ้องศาลฝากขัง สองข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย ตามขั้นตอนต่อไป

ขณะที่นางนัฐิยา ภรรยาผู้ตาย ซึ่งมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพของทางตำรวจด้วย โดยตลอดเวลาทำแผนนั้น ภรรยาผู้เสียชีวิตอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจและร่ำไห้ตลอดเวลา พร้อมตะโกนด่าทอสาปแช่งผู้ต้องหา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา สามีมาหา มาหน้าตาที่สดใสแต่ไม่ได้พูดอะไร ก่อนที่ตนเองจะตื่นขึ้นมาเป็นตะคริว ที่ผ่านมาครอบครัวตนเอง มีอะไรก็แบ่งปันผู้ก่อเหตุมาตลอด มีงานก็เรียกมาทำ มีอาหารมีเครื่องดื่มก็เรียกมากิน แต่ก็มาทำกันได้ลงคอ ส่วนตัวไม่ขอรับคำขอโทษจากผู้ก่อเหตุขอให้ทางตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

พร้อมกันนี้นางกอง วงษาวัตร 62 ปี แม่ของผู้เสียชีวิตซึ่งเดินทางมาจากอำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น พร้อมครอบครัวญาติพี่น้องเดินทางมาดูงานทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งสองจุด ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิตนั้น เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ขณะที่ตนเองนั่งสมาธิอยู่ที่บ้านตามปกติ ก็เห็นเหมือนเป็นสระน้ำแล้วรู้สึกอึดอัดรู้สึกใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกพอนั่งสมาธิเสร็จก็ไม่ทราบข่าวไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับลูกก็ผ่านไป หลังจากที่เข้าวัดทำบุญช่วงเช้าวันต่อมาเสร็จเดินทางกลับมาที่บ้านก็เห็นลูกหลานญาติพี่น้องนั่งร้องห่มร้องไห้อยู่ที่บ้าน ก็ได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทีแรกคิดว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับญาติอีกคนที่นอนอยู่โรงพยาบาล แต่พอลูกหลานญาติพี่น้องเล่าให้ฟังบอกว่านายกุ้ง ลูกชายของตนเองถูกฆ่าตายยัดกระสอบทิ้งลงสระน้ำ วินาทีนั้นหัวใจแทบสลาย แต่ก็ก็ยังไม่ได้เดินทางมารับศพลูก และก็มีหลานเดินมาบอกว่าฝันเห็นกุ้ง ลูกชายของตนเองบอกว่าหนาวไม่มีเสื้อผ้าใส่ จึงพากันเดินทางมาดูการทำแผนและรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด ในอำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง