ขอนแก่นตามหาเจ้าของบ้าน ปล่อยทิ้ง 10 ปี บ้านพัง-ขโมยงัดเหลือแต่ซาก

0703-013

เพื่อนบ้านไม่ไหวแล้ว ประกาศตามหาเจ้าของบ้านที่อยู่ติดกัน หลังปล่อยบ้านทิ้งร้างมาเกือบ 10 ปี บ้านชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก เวลาพายุพัดหลังคาสังกะสีปลิวว่อนสร้างความเดือดร้อนบ้านใกล้เรือนคียง กลายเป็นแหล่งมั่วสุมของคนเร่ร่อนในยามค่ำคืน และมิจฉาชีพที่เข้ามางัดแงะเอาสิ่งของมีค่า ทั้งประตู เหล็กดัด สายไฟฟ้า วอนกลับมาดูแลด่วน

มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Nattanicha Tritaeweetiankul” ได้โพสต์ภาพบ้าน 2 หลัง หลังแรกเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก ส่วนอีกหลังยังอยู่ในสภาพที่สามารถอาศัยอยู่ได้ แต่บริเวณรั้วบ้านมีต้นไม้และหญ้าขึ้นปกคลุม พร้อมระบุข้อความว่า “ต้องขออภัยเจ้าของบ้าน ขออนุญาตลงรูปนะคะ ไม่ได้ร้องเรียน แต่ร้องเรียกตามหาเจ้าของบ้าน 2 หลังนี้ อยู่ในซอยมิตรภาพ 18 ขณะนี้บ้านของท่านถูกโจรงัดแงะสิ่งที่นำไปขายได้ไปจนเกลี้ยงแล้ว เคยเห็นงูเลื้อยเข้าไปสร้างความตกใจอยู่ไม่น้อย และบ้านหลังใหญ่คอมแอร์หายไปหมดแล้ว ส่วนในบ้านยังเหลืออะไรป้าข้างบ้านไม่ทราบจริง ๆ เพราะไม่กล้าเข้าไปดู บ้านที่เหลือแต่โครงก็ไม่น้อยหน้ากัน ฝนตกลมแรงแต่ละครั้ง เมื่อก่อนกลัวสังกะสีปลิว แต่โจรเอาไปขายบ้างแล้ว ยังเหลือแค่นิดหน่อยพอได้ลุ้น อยากให้เจ้าของบ้านมาช่วยดูแลบ้านให้ทีนะคะ ติดต่อไปทางหน่วยงานราชการแล้ว แต่บ้านมีเจ้าของเลยทำอะไรไม่ได้ ช่วยมาตัดต้นไม้(บ้านใหญ่) และรื้อบ้านทิ้ง(โครงบ้าน) แล้วป้าข้างบ้านจะช่วยดูแลเป็นหูเป็นตาให้ค่ะ”

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเจ้าของโพสต์ดังกล่าว คือ นางสาวณัฎฐณิชา ไตรเทวีเธียรกุล อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 114/10 ซอยมิตรภาพ 18 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับบ้านหลังที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปสำรวจดูภายในบริเวณบ้าน ซึ่งพบว่า เหลือแต่โครงสร้างบ้านที่ด้านล่างเป็นปูนมีสภาพเสื่อมโทรม พื้นบ้านชั้นล่างเต็มไปด้วยเศษซากของไม้ สังกะสี เศษกระจกที่ร่วงหล่นลงมา และมีหญ้าขึ้นปกคลุม ภายในห้องครัวและห้องน้ำเต็มไปด้วยเศษกระจกและดินโคลน ประตูหน้าต่างที่เคยมีเหล็กดัด ก็ถูกคนร้ายเข้ามาทุบและงัดแงะเอาเหล็กดัด รวมทั้งสายไฟไปขาย ส่วนบนชั้น 2 เหลือแต่ผนังไม้ เนื่องจากพื้นบ้านชั้น 2 ได้พังลงมา ขณะที่หลังคาที่เคยมุงด้วยสังกะสีก็เหลือแค่โครงหลังคาเท่านั้น

นางสาวณัฎฐณิชา ไตรเทวีเธียรกุล

นางสาวณัฎฐณิชา เล่าว่า ตนเองอาศัยอยู่ที่บ้านที่อยู่ติดกับบ้านหลังนี้มาประมาณ 30 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้บ้านหลังนี้เคยมีคนอาศัยอยู่มาก่อน ซึ่งตนเองก็รู้จักกับเจ้าของบ้าน ก่อนที่เจ้าของบ้านจะเสียชีวิตไป ทำให้บ้านหลังนี้ถูกปล่อยทิ้งไว้ ซึ่งแต่ก่อนก็มีสภาพเหมือนบ้านปกติทั่วไป มีรั้วรอบขอบชิดอย่างดี แต่หลังจากที่เจ้าของบ้านคนเดิมเสียชีวิตไป ก็ไม่มีคนมาดูแลจนบ้านเริ่มทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ ซึ่งในช่วงแรก ๆ ตนเองก็ได้มาช่วยตัดหญ้าที่ขึ้นปกคลุมออกอยู่บ้าง เพราะเห็นว่า ไม่มีคนมาดูแล แต่ก็มีช่วงหนึ่งเมื่อประมาณ 5 – 6 ปีที่ผ่านมา มีกลุ่มคนพร้อมรถกระบะได้เข้ามาที่บ้านหลังนี้ ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่า เป็นช่างที่ญาติขิงเจ้าของบ้านจ้างให้มาซ่อมแซมบ้านหรือเปล่า ได้เข้ามาขนย้ายสิ่งของบางส่วนออกไป แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเข้ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านอีกเลย จนบ้านหลังนี้ค่อยชำรุดทรุดโทรม เริ่มตั้งแต่สังกะสีมุงหลังคาที่ถูกลมพายุพัดออกไปทั้งหมด ซึ่งก็สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เพราะเวลาที่มีลมพายุ ก็จะพัดสังกะสีปลิวไปตกใส่บ้านที่อยู่ข้าง ๆ เมื่อบ้านไม่มีหลังคากันฝน ก็ทำให้บ้านเริ่มผุพังลงเรื่อย ๆ จากนั้นก็เริ่มมีคนแปลกหน้าเข้ามามั่วสุมในเวลากลางคืน และเริ่มมีคนร้ายเข้ามางัดแงะเอาสิ่งของมีค่า ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องครัว เหล็กดัดหน้าต่าง รวมทั้งสังกะสีไปขาย ทำให้ตนเองเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะในเวลากลางคืนก็มักจะได้ยินเสียงคนเดินอยู่ในบ้านหลังนี้ จึงตัดสินใจไปซื้อไฟโซล่าเซลพลังงานแสงอาทิตย์มาติดไว้ เพื่อที่จะสามารถสอดส่องดูได้ว่ามีคนเข้ามาหรือไม่

นางสาวณัฎฐณิชา กล่าวอีกว่า ตนเองและเพื่อนบ้านพยายามช่วยกันตามหามาเกือบ 10 ปี ว่าบ้านหลังนี้เป็นของใคร และเคยสอบถามกับทางญาติของเจาของบ้านหลังเดิมก็ได้คำตอบว่า ได้ขายบ้านหลังนี้ให้คนอื่นไปแล้ว และไม่ทราบว่าปัจจุบันบ้านหลังนี้เป็นของใคร ทำให้ตอนนี้ตนเองและเพื่อนบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าสักวันบ้านจะถล่มลงมา และจะกลายเป็นแหล่งมั่วสุมสิ่งผิดกฎหมาย จึงอยากวอนไปยังเจ้าของบ้านหลังนี้ หากเห็นข่าวนี้ขอความกรุณาได้กลับมาดูแลบ้านหลังนี้โดยด่วน รวมทั้งบ้านอีก 1 หลังที่อยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตร ที่ตอนนี้มีหญ้าขึ้นปกคลุมไปทั่ว ให้กลับมาดูแลบ้านด้วย เพราะตอนนี้ได้มีคนร้ายเข้าไปขโมยเอาสิ่งของมีค่าภายในบ้าน โดยเฉพาะคอมเพรสเซอร์แอร์ ได้ถูกคนร้ายเข้ามางัดเอาไปจนหมดแล้ว

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง