6 พรรค ทักกันแรง ที่ ขอนแก่น

6 พรรค  ทักกันแรง ที่ ขอนแก่น
ปะจัน” โดย “เขี้ยวจัน

ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก “ตัวแทน” ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม…[ หน้ารวมบทความ ปะจัน ]

เข้าสู่โหมด “เลือกตั้ง” เต็มตัวแล้ว… การเมืองร้อนแรง ตามอุณหภูมิของหน้าร้อน ที่แล้ง พร้อมมีฝุ่นตลบ

ตารางการหาเสียงของ “แกนนำ”  และ “หัวหน้าพรรค”  ถูกวางเรียง เป็นจังหวัด เป็นภาค ตามแต่นโยบายว่า จะลงไปเจาะพื้นใดเป็นพิเศษ ที่จะ “ชิงธง” กัน

หลังศาลปกครอง มีคำพิพากษา “ยกฟ้อง” กรณีนักการเมือง ยื่นฟ้อง กกต. เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ใน 3 จังหวัด ได้แก่ กทม.,สกลนคร และ สุโขทัย  ดังนั้น ผลลัพธ์ คือ ทุกอย่างคงที่อยู่อย่างนั้น  ตามที่ กกต. มีประกาศไปแล้ว และเมื่อ วันที่ 3 และ 4 เมษายน  2566 มีการจับสลาก ได้เบอร์ ผู้สมัครแบบแบ่งเขต และ ระบบปาร์ตี้ลิส กันไปแล้ว ทุกอย่างจึงเดินหน้าเต็มสูบ เครื่องร้อน นับถอยหลัง ไปสู่ วันเลือกตั้ง อาทิตย์ที่ 14 พค.นี้

นโยบายหาเสียงดุเดือด งัดแผนกันออกมา เกือบทุกวัน แต่ละพื้นที่ ต้องมี “แกนนำ” เฝ้าระวังกันสุดฤทธิ์ ราวเดิมพันกันด้วยชีวิต โอววว…..

พื้นที่อีสาน พื้นที่เยอะสุด มี ส.ส.เขต เยอะสุด  คือ 133 คน และ “นำธง” ไปถึงคะแนนพรรคด้วยเช่นกัน ว่ากันว่า พรรคใด ได้ ส.ส.อีสาน มากสุด ย่อมนำไปสู่เส้นชัย ตามหลักเสียงข้างมาก ของระบบประชาธิปไตย

กิตติ สิงหาปัด” พิธีกรชื่อดัง ชาวกระนวน จังหวัดขอนแก่น จึงจัดเวทีดีเบต ให้แกนนำพรรค มาเจอกันที่ลาน 200 ปี ริมบึงแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น  ออกอากาศสด ทางช่อง 3 เมื่อค่ำ ค่อนดึก วันที่ 04 เมษายน ที่ผ่านมา หลายคนอาจ ฟังสดๆ กันไปแล้ว ผู้เขียนขอเก็บตก วลีจากขอบเวที และข้อสังเกต บางจุด สีสัน และ เรื่องจริงติดขอบ มาเล่าสู่กันฟัง….

เมื่อ นักการเมืองเขาพบกัน ต่อหน้าสาธารณชน “ฝีปาก แรงกล้า” บ้างเป็นมวยเปิด บ้างเป็นมวยสุ่ม บ้างเป็นมวยกำหมัดน็อค ยิ่งรุ่นเก๋าส์ ยิ่งเก๋าส์เกมส์

“กิตติ”  เข้าใจ ตั้งข้อสังเกต ยิงคำถาม ยังกะเปิดลู่วิ่ง ว่า ”แกนนำ” ทุกคนบนเวทีวันนี้ ล้วนมาจาก รากเดียวกัน คือ “ศิษย์เก่า” พรรคเพื่อไทย กันทุกคน …..

วิรัช รัตนเศรษฐ” จึง ตีเสกหน้า ทันทีว่า ย้ายพรรคเพราะอยาก ทำนโยบายที่มีอิสระ คิดได้เอง ทำได้เอง ไม่ต้องคอยฟัง “เจ้าของพรรค” เพราะเป็นนักการเมือง ทำงานให้พี่น้องประชาชน ไม่ใช่ “ลูกจ้าง” ของพรรค อย่างที่เห็นๆกัน…ทักกันแรง เลือดซิบ…เชียวนะ

สุทิน คลังแสง” ชิงตอบ แก้เกี้ยว ไม่เต็มเสียงนัก ว่า พูดแบบนี้ก็เหมือนเป็นการ “ดูถูก” พี่น้องชาวเสื้อแดง นะซิ…. “กิตติ” ต้องรีบเปลี่ยนมุม คำถาม ยิงไปยังคนอื่น เรื่องจึงสงบลง….

แกนนำ ทั้ง 6 คน “กิตติ” เน้นย้ำว่า พวกเขาทุกคน เป็นตัวแทนพรรค ใช่ไหม ดังนั้น คำพูดทุกคำของพวกเขา ย่อมเป็นสัจจะของพรรคด้วย ใช่หรือไม่ ว่านโยบายจะเป็นเช่นที่พูด หลังการเลือกตั้ง ฟังเสียงตอบ ไม่เต็มคำนัก อ้อมแอ้มกันทุกคน….

ราว 60 นาที ของการถ่ายทอดสด ทางช่อง 3  และอีกราว 20 นาที คุยกันต่อ ทาง FB Live ดูว่า เนื้อ-น้ำ จากนโยบาย ที่จะทำอะไรให้คนอีสาน ไม่ชัดเจนนัก ประชาชน ต้องกลับไปชั่งใจกันอีกหลายตลบ

ที่มองเห็น กันชัดๆ ว่า การเลือกตั้ง ทำให้เงินสะพัด ตามที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ออกมาพยากรณ์  ขยายความจากงานวิจัยว่า การเลือกตั้ง งวดนี้-14 พค. จะมีเงินสะพัด ราวกว่า 50,000 ล้านบาท แถมยังมีค่า “ตัวทวี” อีก จึงคะเนว่า เงินสะพัด อาจเฉียด แสนล้านบาท

ที่เห็น ชัดๆ คาตา ในวันนั้น พบว่า อุปกรณ์ ทุกอย่าง ล้วนทำให้ผู้ผลิตมีออเดอร์ จากลูกค้า ที่เป็นกลุ่มการเมือง นี่เอง อาทิ ป้ายชู พรึ่บ… เสื้อทีม เสบียงอาหาร น้ำดื่ม และ ค่าเดินทาง

กองเชียร์  “เอามันส์” เสมือนกองเชียร์กีฬาสี ทีมข้า แพ้ไม่ได้เด็ดขาด หวิดจะ ฮึ่มๆกันบ้าง แต่ทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกัน เมื่อถึง “เส้นชัย” กองเชียร์ก็หมดค่า  ต้องกลับไปทำมาหากินอย่างเดิม  สัจจะธรรม ….ที่ต้องเตือนใจกันไว้ทุกวัน

วันนี้ เขา “แบ่งพรรค” หลังเลือกตั้ง เขา “แบ่งเค้ก” ชาวบ้าน ยากจน กว่าเดิม……เฮ้อ…. เจ็บแล้วจำ อย่าหลงคำหวาน นักการเมือง ควรได้รับ “บทเรียน” แพงๆบ้างนะ…

ชม Live สด คลิก

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง