หลวงปู่วรพรตวิธาน วัดจุมพล อ.แวงน้อย ละสังขาร20ปีสังขารไม่เน่าเปื่อย ผิวหนังเป็นสีเขียวมรกต

6290D47F-4511-4B2B-8A55-7612B6BC91C4

[ ชมคลิป ]

หลวงปู่ละสังขาร สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย ผิวหนังกลายเป็นสีเขียวมรกตทั้งสรีระ ขณะที่เจ้าอาวาสวัดรูปปัจจุบันเผย เวลาผ่านไปกว่า 20 ปี แล้ว สรีระสังขารยังไม่เน่าเปื่อยก่อนหลวงปู่ละสังขารเอ่ยวาจาไว้ว่าจะละสังขารและร่างจะเผาไม่ไหม้ ขณะที่ทางวัดเชิญร่วมทำบุญครบรอบวันละสังขาร พร้อมเปิดให้ลอดสรีระสังขารเพื่อความเป็นสิริมงคล

เมื่อเวลา 15.00 . วันที่ 20 มี..2566 ภายในโบสถ์ที่วัดจุมพล บ้านก้านเหลือง .ก้านเหลือง .แวงน้อย .ขอนแก่น ซึ่งตั้งโลงแก้วบรรจุสรีระสังขาร หลวงปู่วรพรตวิธาน อดีตเจ้าอาวาสวัดเอาไว้ โดยลูกศิษย์ลูกหาและชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธาในตัวหลวงปู่วรพรตวิธาน จะทราบดีว่าท่านถูกยกให้เป็นพระอริยสงฆ์แดนอีสาน

มีเรื่องเล่าขานกันมาตั้งแต่ปี 2503 ที่หลวงปู่เหยียบรถกระดก (ลอยขึ้น) โดยวันนั้นหลวงปู่จะออกเดินทางจาก อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ด้วยรถโดยสาร เพื่อจะไปจังหวัดร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ตามธรรมดาโดยทั่วไปแล้ว พระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้า­แล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตาม แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่­โยม รถจะไม่เดี่ยงหรือ” (เดี่ยง เป็นภาษาไทยอีสานแปลว่ากระดก”) คนขับก็บอกว่าหลวงพ่อนิมนต์ก้าวเหยียบขึ้นได้เลย รถมันไม่เดี่ยงหรอกเพราะรถรับน้ำหนักได้หล­ายตันพอคนขับพูดจบ หลวงปู่ก็ก้าวเท้าขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันที ด้านหน้ารถลอยขึ้น คนขับรถเห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงจึงกราบนิมนต์หลวงปู่มานั่งด้านหน้าโดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมาสมญานามหลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยงจึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป

ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายสมศักดิ์ มาตรงามเมือง อายุ 60 ปี ชาวบ้านที่คอยดูแลมณฑปที่ตั้งสรีระสังขารหลวงปู่วรพรตวิธาน พาผู้สื่อข่าวเดินชมพร้อมทั้งเปิดเผยว่า ที่วัดจุมพลแห่งนี้ จะมีชาวบ้าน ลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่ศรัทธาเลื่อมใสในหลวงปู่วรพรตวิธานแวะเวียนมากราบสรีระสังขารของหลวงปู่ที่เป็นสีเขียวมรกต ไม่เน่าเปื่อย อย่างไม่ขาดสาย แต่ละวันชาวบ้านในพื้นที่จะมาทำบุญที่วัดทำนุบำรุงพระพุทธศาสนากัน และในช่วงที่มีงานบุญก็จะมีคนมาเต็มวัด ซึ่งที่วัดก็จะเปิดให้ลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไปได้เข้ามากราบสีระสังขารหลวงปู่และพาลอดสังขารหลวงปู่เพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัวตามความเชื่อ โดยตนเองจะเป็นผู้นำพูดกล่าวขอขมาและลอดด้านล่างของสรีระสังขารหลวงปู่ 3 รอบ และพาต่อด้วยการยกหินทำนายตามคำขอ และพาปิดทองรูปหล่อหลวงปู่วรพรตวิธาน เพื่อความเป็นสิริมงคล

พระครูสิริ ภัทรสาร เจ้าอาวาสวัดจุมพล

ด้าน พระครูสิริ ภัทรสาร เจ้าอาวาสวัดจุมพล เปิดเผยเรื่องเล่าจนเป็นตำนานของหลวงปู่วรพรตวิธาน กับผู้สื่อข่าวว่า ทุกวันอาตมาทำวัดเสร็จก็จะขึ้นมาหาหลวงปู่ทุกวัน และในวันที่ 18 มกราคม 2544 ท่านก็พูดแปลกๆว่าปีนี้จะไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว อาตมาก็ถามว่าหลวงปู่จะไปไหน หลวงปู่ก็บอกว่าปีนี้เราจะตายแล้ว ตายแล้วก็สังขารเผาไม่ไหม้ คำพูดท่านเป็นวาจาสิทธิ์ พูดคำไหนก็คำนั้น เมื่อท่านเสีย ก็ได้ฉีดยาหมอเเจ้งว่าร่างท่านจะอยู่ได้แค่ 6 เดือน สังขารก็จะเน่าเปือย ทางวัดก็ได้เก็บสังขารท่านไว้ในหีบธรรมดา โลงแก้วธรรมดาที่ไม่ได้ติดตั้งอะไร และไม่ได้เป็นโลงเย็นมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ วันที่20 พฤษภาคม ..2544 ในโลงจะใส่ใบชา ยากันชื้น การบูน ไม่ได้ดูแลอะไรเป็นพิเศษ เมื่อก่อนสังขารของท่านจะเป็นสีน้ำตาล จากนั้นพบว่าในวันที่ 14 สิงหาคม..2553 ผิวหนังของท่านเริ่มเกิดเป็นสีเขียว ที่สังขารของท่าน ก่อนหาที่จะพบเห็น ได้ฝันก่อนว่ามีพยานาคมาเลื้อยวนอยู่ที่ศาลาของหลวงปู่ ตอนเช้าเป็นวันพระได้มาพูดคุยกับโยมคนหนึ่งที่มีความฝันเหมือนกัน เลยได้พากันไปดูหีบสังขารของหลวงปู่ ก็เจอสีเขียวเท่าขนาดของไข่ ที่บริเวณศีรษะของท่าน ตามปกติก็เปลี่ยนผ้าท่านทุกปี คิดว่าเป็นเชื้อรา ก็เลยนำแผ่นทองมาปิด กลัวชาวบ้าน ญาติโยม คิดว่าเราเอาสีไปทาท่าน แต่ก็แผ่นทองก็หลุดออกเหมือนเดิม ซึ่งในตอนนั้นยังไม่ปรากฎทั้งสังขาร แต่ผ่านไปได้ประมาณ 1 เดือน ก็พบว่าเป็นสีเขียวเต็มสังขาร กลายเป็นสีเขียวมรกตจนถึงขณะนี้

 

ในตอนนั้นโซเชียลกำลังมา ลูกศิษย์ลูกหาเค้าก็ได้มาถ่ายรูป และส่งต่อๆกันไป หลังจากสังขารเป็นสีเขียวแล้วก็ยังคงปิดทองเป็นประจำทุกปี  และเปลียนจีวรทุกปี ในกรณีที่ท่านบอกว่าสังขารเผาไม่ไหม้คาดว่าท่านจะบริจาคสังขารให้เป็นสิ่งที่เราไม่ยึดติดเพราะว่าเราแค่มาอาศัยร่าง ใฟ้พวกเราพิจารณาทางธรรมว่าเป็นแค่ท่อนไม่ ลาภยศสรรเสริญเอาไปไม่ได้ สังขารของท่านจะเก็บไว้ให้ลูกหลานดูต่อไป หลายๆรุ่น จะจัดปฏิบัติธรรมให้สังขารของหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์เหมือนที่อื่นทำ

ในแต่ละปีทำบุญเปลี่ยนจีวรให้ท่าน ในตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ อาตมา ก็จะเปลี่ยนจีวรให้ท่านทุกวันที่ 16 เมษายน จึงยึดถือมาตลอด ส่วนทำบุญครบรอบวันละสังขาร จะทำวันที่20 พฤษภาคม ของทุกปีแล้วจะเป็นบุญเดือน 6 ของอีสาน คือบุญบั้งไฟ ละสังขารมาแล้ว 22 ปี หลังจากที่มีโควิดระบาดก็ไม่ได้จัดเลย ปีนี้ก็จะจัดตามปกติ กิจกรรมจะมีบุญบั้งไฟ มีนางรำมารำบวงสรวงหลวงปู่ นิมนพระมาสวดพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง