ขอนแก่นโจรตระเวนงัดตู้หยอดเหรียญ

KKL Team Size News.00_06_49_03.Still056

ที่จังหวัดขอนแก่นโจรชุกชุมตะเวนงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ และ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ กวาดเงินไปหลายพันบาท วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งไล่ล่าจับกุมมาดำเนินคดี

วันที่ 1 มี.ค. 2566 ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่หน้าร้านขายของชำชื่อร้านรีโมท ตั้งอยู่เลขที่ 216 ซอยวัดแก้วมอดี บ้านโนนม่วง ม. 19 ต. ศิลา อ. เมือง จ. ขอนแก่น จับภาพคนร้ายเป็นชายรูปร่างสูงท้วม อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อฮู้ดแขนยาว กางเกงขายาว สวมใส่แมตช์ปิดบังใบหน้า ขับรถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดหน้าร้าน แล้วทำทีเป็นเติมเงินจากตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ เมื่อปลอดคน ก็ได้นำกรรไกรตัดเหล็ก ที่พกมาภายในเสื้อ เข้ามาพยายามงัดและตัดบริเวณกุญแจข้างตู้ ครั้งแรกไม่สามารถตัดกุญแจล๊อคตู้ออกไปได้ จากนั้นคนร้ายก็ได้ขยับรถจักรยานยนต์ออกไปจอดที่ข้างถนนด้านหน้า แล้วเดินวนกลับมาที่ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง ก่อนจะใช้กรรไกรตัดเหล็กตัวเดิม ตัดกุญแจล๊อคออกได้สำเร็จ แล้วกวาดเงินไปได้จำนวนกว่า 3,000 บาท จากนั้นคนร้านรายเดิมได้ไปงัดตู้ซักผ้าหยอดเหรียญซึ่งอยู่ถัดไป จำนวน 4 ตู้ ได้เงินสดไปอีกกว่า 1,500 บาท แล้วคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.44 น. ของวันที่ 28 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านร้านรีโมท ตั้งอยู่เลขที่ 216 ซอยวัดแก้วมอดี บ้านโนนม่วง ม. 19 ต. ศิลา อ. เมือง จ. ขอนแก่น พบกับผู้เสียหายคือนางสุนละมัย ทาคำใจ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านโดยได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า คนร้ายรายนี้ได้เข้ามา ก่อเหตุเพียงคนเดียว ซึ่งก่อนหน้าที่จะมางัดเติมเงินโทรศัพท์มือถือ และตู้ซักผ้าหยอดเหรียญที่ร้านของตน คนร้ายรายนี้ ได้ไปตระเวนงัดตู้ซักผ้าหยอดเหรียญตามหอพัก รวมทั้งลักเล็กขโมยน้อยภายในหอพักนักศึกษาหลายแห่ง เพราะรูปประพรรณสัณฐานคล้ายคลึงน่าจะเป็นคนเดียวกัน ซึ่งร้านตนถือว่าเป็นหลังที่สามที่ถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุงัดแงะภายในอาทิตย์เดียวกัน ก็อยากฝากเตือนไปตามร้านค้าที่ตั้งเครื่องบริการหยอดเหรียญทุกชนิดให้ระวังปิดล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา และอยากฝากไปยังประชาชนภายในชุมชนให้ช่วยกันสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาช่วยกัน เพราะตอนนี้โจรชุกชุมเป็นอย่างมาก และอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นภัยต่อสังคมอย่างมาก

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง