ขอนแก่น คืบหน้า อส.ตร.ยิงเพื่อนร่วมงานตาย1เจ็บ1 ภรรยาคนตายอโหสิกรรมให้ปล่อยเป็นเรื่องกฎหมาย

041140CC-3795-496C-AAB3-0D3F97C591F7

[ คลิป ]


คืบหน้า อส.ตร.ยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บถูกยิงเข้าหลังอีก 1 คน ล่าสุด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน เจอกันในงานบุญเกิดเขม่น เดินตามไปยิงคู่อริบาดเจ็บพร้อมเพื่อนที่อยู่ด้วยเสียชีวิต ไม่ขอทำแผนเนื่องจากกลัวไม่ปลอดภัย ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เข้าช่วยแย่งปืนได้ทัน ฝากเป็นอุทาหรณ์ อส.ตร.ทำไมถึงมีปืนพกมาก่อเหตุขนาดนี้

เมื่อเวลา 10.30 . วันที่ 30 ..2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านโนนสำราญ หมู่ 8 .กุดขอนแก่น .ภูเวียง .ขอนแก่น ภายหลังเกิดเหตุ นายอุทัย ศิริเกษ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 276 .8 อดีต อส.ตร.สภ.ภูเวียง ใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงเพื่อนร่วมงานที่เป็นอดีต อส.ตร.ด้วยกัน 2 คนคือ นายสมพร สีหานนท์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 .8 กระสุนเข้าที่กลางหลัง ถูกนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลขอนแก่น อาการล่าสุดปลอดภัยอยู่ในความดูแลของแพทย์ และนายชูจิตร สีภูมิไตร อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 .8 กระสุนเข้าที่ชายโครงด้านซ้ายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลภูเวียง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.30 . วันที่ 29 ..2565 ที่ผ่านมา

ซึ่งพบว่ายังมีคราบเลือดของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บอยู่ตรงริมถนน มุม 3 แยกหน้าบ้านเลขที่ 75 หมู่ 8 ซึ่งเป็นถนนท้ายหมู่บ้าน โดยชาวบ้านได้นำเหล้ามาราดคราบเลือดเพื่อดับกลิ่นคาว พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้พบกับนาย นฤชล วงษ์คง อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 250 .8 ใกล้กับจุดเกิดเหตุและชาวบ้านอีกหลายคนซึ่งต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบางส่วนก็คิดว่าเป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นสักวัน เพราะผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บนั้นมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นไม่ได้มีเรื่องบาดหมางด้วยแต่เป็นเพิ่นๆกลุ่มเดียวกันกับผู้ตาย และชาวบ้านยังบอกอีกว่า ทั้ง 3 คนนั้น เป็นอส.ตร.ทำงานร่วมกันในหมู่บ้านมานานแล้ว

นายนฤชล วงษ์คง อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และเป็นคนเข้าไปแย่งปืนจากผู้ก่อเหตุได้ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนท้ายหมู่บ้าน ใกล้กับเวทีหมอลำงานบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติครอบครัวเจ้าภาพซึ่งจ้างหมอลำมาทำการแสดงอยู่ที่หน้าบ้าน ขณะที่ทุกคนอยู่ในงานก็สนุกสนานกันตามปกติ ก่อนที่เวลาประมาณ 22.30 . นายชูจิตร และนาย สมพร ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน เดินออกมาปัสสาวะในจุดเกิดเหตุ ริมถนนท้ายหมู่บ้าน โดยทั้งคู่เดินออกมาและแยกกันปัสสาวะ ซึ่งนายสมพรผู้บาดเจ็บและมีเรื่องบาดหมางกับผู้ก่อเหตุมาก่อเดินไปปัสสาวะทางมุมด้านซ้าย ส่วนนายชูจิตร เพื่อนกลุ่มเดียวกันกับนายสมพรเดินแยกไปปัสสาวะที่มุมด้านขวา จังหวะนั้น นายอุทัย ผู้ก่อเหตุก็เดินตามไปแล้วใช้ปืนยิงเข้าที่กลางหลังนายสมพร จนได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายชูจิตรวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อนถูกนายอุทัยยิงเข้าที่ชายโครงซ้าย ก่อนที่ตนเองและชาวบ้านคนอื่นๆจะช่วยกันจับ โดยตนเองได้เข้าไปกำปืนลูกโม่ของผู้ก่อเหตุเอาไว้ไม่ให้ลั่นไก และพยายามทุบที่ข้อมือจนปืนหลุดออกจากมือนายอุทัย ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยกันมัดตัวนายอุทัยเอาไว้แล้วแจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายนฤชล บอกอีกว่า สาเหตุลึกๆนั้นไม่ทราบว่าทั้งคู่มีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อนแต่เท่าที่ตนเองเคยเห็นหลังจากมาอยู่อาสัยที่หมู่บ้านนี้ ก็เห็นทั้งคู่เคยทะเลาะ จนกระทั่งเหตุการณ์ล่าสุด วึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าวโดยตนเองอยากจะฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ในเรื่องของอาวุธปืน อส.ตร.สามารถพกพาอาวุธปืนไปในที่ต่างๆจนนำไปสู่การก่อเหตุ ก็อยากจะฝากในเรื่องนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ที่บ้านเลขที่ 107 .8 และได้พบกับ นาง ปราณี สีภูมิไตร อายุ 50 ปี พร้อมญาติๆและผู้นำชุมชนช่วยกันจัดเตรียมงานศพรอรับแขก และจะเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจในช่วงบ่ายวันนี้ทันที เนื่องจากไม่อยากให้ตั้งศพข้ามปี ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุเป็นเรื่องอะไร เพราะสามีตนเองก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมาง แต่คนที่มีเรื่องบาดหมางเป็นผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นเพื่อนสามี กับผู้ก่อเหตุ และขออโหสิกรรมให้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างยุ่งเกี่ยวกัน และในส่วนของทางคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

ด้าน ...ไพโรจน์ ไตรธรรม ผกก.สภ.ภูเวียงกล่าวว่า ทั้ง 3 คนนั้น ปัจจุบันเป็น อดีตอส.ตร.สภ.ภูเวียง ซึ่งไม่ได้มีการต่ออายุบัตรมาตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากผู้ก่อเหตุคือนายอุทัย ประพฤติตนไม่เหมาะสมในพื้นที่ ทางสภ.ภูเวียงจึงไม่ได้มีการต่ออายุบัตรอส.ตร.สภ.ภูเวียงให้กับใครอีก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นงานบุญอุทิศส่วนกุศลของชาวบ้านที่จัดขึ้นให้กับผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นญาติ และได้จ้างหมอลำมาทำการแสดงที่หน้าบ้าน โดยขณะเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงก่อนหมอลำเลิก ซึ่งทางตำรวจได้รับแจ้งก็ลงพื้นที่ไปและพบว่าสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว และพบว่ามีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย ส่วนอีกรายอาการปลอดภัยอยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งถูกส่งต่อเมื่อคืนที่ผ่านมา และผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงทั้งคู่จริง ซึ่งในรายละเอียดอื่นๆนั้นอยู่ในสำนวนการสอบสวนไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยภายหลังสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและไม่ขอไปทำแผนเนื่องจากกลัวจะไม่ปลอดภัย ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ก่อนจะควบคุมตัวนายอุทัย ส่งฟ้องศาล .ชุมแพ ดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืน พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนเนื่องจากมีอัตราโทษสูงตามขั้นตอนต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง