ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด คุมตัวเข้ม 2 ใน 5 คนร้ายก่อเหตุยิงเสี่ยร้านขายโทรศัพท์ เสียชีวิตหน้าทางเข้าสนามบินขอนแก่น ทำแผนชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ พบหลักฐานตั้งใจวางแผนมาปล้นเอารถยนต์ของผู้ตาย ก่อนหลบหนีข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่สุดท้ายไม่รอด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2565 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.สุรศักดิ์ มโนทัย ผกก.สภ.บ้านเป็ด พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ รองผกก.สืบสวนสภ.บ้านเป็ด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อีกหลายนาย ควบคุมตัวนาย พันธรัตน์ หาญสุริย์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 ม.4 บ้านโคกฟันโปง ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น และนายจิราวุฒิ ทองสืบสาย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม. 8 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ ใช้ปืนยิงเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร และร่วมกันมี ใช้อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนโดยมิได้รับอนุญาต” ทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ บนถนนทางเข้าสนามบินขอนแก่น

พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวถึงการคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้วนี้ว่า เนื่องจากวันที่ 9 ต.ค.65 เวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงตาย บนถนนทางเข้าสนามบินขอนแก่น เมื่อไปตรวจที่เกิดเหตุพบศพนายพนม ทิพย์รัตนมงคล อายุ 40 ปี นักธุรกิจเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ตลาดประตูน้ำ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ถูกยิงด้านหลังทะลุหน้าอก 1 แผล พบรอยกระสุนปืนบริเวณโคนอวัยวะเพศ 2 แผล มือซ้ายกำสร้อยคอรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท มือขวากำพระเลี่ยมทอง นอนเสียชีวิตอยู่ทาง

จากการสืบสวนทราบว่าเสี่ยพนมเป็นเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือ แต่ยังมีการติดต่อซื้อขายรถยนต์มือสองกับคนบางกลุ่ม แต่ครอบครัวไม่รู้เรื่องด้วย ซึ่งก่อนจะถูกฆ่าตายนั้น มีพยานยืนยันว่าเสี่ยพนม นัดส่งมอบรถยนต์กระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน 1 ขบ 2903 กรุงเทพมหานคร ให้กับลูกค้าที่เดินทางมาจาก สปป.ลาว ซึ่งนัดส่งรถและจ่ายเงินกันในพื้นที่ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด โดยเจรจาซื้อขายกันในราคา 190,000บาท แต่เมื่อลูกค้า มีเงินไม่พอจ่าย และในจุดดังกล่าวเสี่ยพนมจึงรู้ว่าเป็นนายโก้ หรือนายพันธรัตน์ หาญสุริย์ อายุ 18 ปี และและนายจิราวุฒิ ทองสืบสาย อายุ 26 ปี เมื่อสองคนมีเงินไม่พอจ่ายค่ารถ จึงขอให้เสี่ยโก้ พามาที่ขอนแก่น เพื่อมารอรับเงินจากพรรคพวกที่ สปป.ลาว จากนั้นก็พากันนั่งมาในรถเดินทางมาที่จังหวัดขอนแก่น

พยานยืนยันว่า เสี่ยพนม รับนายโก้และนายเบนซ์มาที่ขอนแก่น เพราะนายโก้จะมานอนที่ขอนแก่นรอพรรคพวกโอนเงินมาให้จ่ายค่ารถยนต์ที่จะซื้อ และเมื่อเดินทางมาถึงขอนแก่น พยานสองคนที่ไปกับเสี่ยพนมแยกย้ายกลับบ้าน กระทั่งเสี่ยพนมถูกฆ่าตายแล้วรถยนต์คันที่จะขายก็หายไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรสจจึงเชื่อว่า นายโก้และเพื่อนทำการฆ่าเสี่ยพนม เพื่อปล้นทรัพย์รถยนต์แล้วหลบหนีไป จึงรวบรวมพยาน หลักฐาน ขอศาลออกหมายจับนายโก้ พร้อมพวกรวม 5 คน ในข้อหาดังกล่าว

ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บ้านเป็ด สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุได้แล้ว 3 คน คือนายอภิชาต ถะเกิงสุข อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ม. 7 ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น นายธนพล วงษ์สมบูรณ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม. 7 ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น และนายเกียรติศักดิ์ จรัสกาย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม. 7 ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ซึ่งการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนรับสารภาพว่า นายโก้ไปรับมาจากบ้าน เข้ามาในเมืองขอนแก่น แต่ไม่บอกว่ามาทำอะไร ในฐานะเพื่อนจึงนั่งรถมาด้วย กระทั่งเห็นนายโก้เข้าไปพูดคุยกับเสี่ยพนม แล้วก็ไล่ยิงเสี่ยพนมจนตายข้างทาง แล้วก็พากันเอารถเสี่ยพนม หลบหนีไปยังจังหวัดอุบลราชธานีมีนายจิราวุฒิ ทองสืบสาย อายุ 26 ปีเป็นคนขับรถไปจอดไว้ใน รพ.เขมราช แล้วก็ข้ามฝั่งไปสปป.ลาวพร้อมกับนายโก้ จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝั่งไทยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว จับกุมตัวทั้งสองคนมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย

“จากการสอบสวนนายโก้ให้การรับสารภาพว่า ใช้ปืนยิงเสี่ยพนมจริง เพราะแค้นใจในเรื่องการซื้อขายรถ แต่ตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากซื้อขายกันมาหลายคัน จนมีหนี้สินติดค้างกันจำนวนหลานแสนบาท เคลียร์กันไม่ลงตัว จะเอารถหักหนี้ก็ไม่ให้ ด้วยความโมโหจึงใช้ปืนยิงเสียพนมจนตาย แล้วเอารถคันที่จะซื้อขายกันหนีไปที่จังหวัดอุบลราชธานี แล้วหนีไปกบดานที่สปป.ลาว กระทั่งถูกตำรวจสปป.ลาวจับกุมตัวส่งตำรวจไทยดังกล่าว ส่วนรถยนต์ได้จอดไว้ในรพ.เขมราช ก็ไม่ทราบว่าใครมาเอาไป”