รวบแล้ว หนุ่มหัวร้อน “จอนนี่ เมืองนนท์” ควบ จยย.ยิงอริหน้าโรงเรียน ก่อนหลบหนีมาซ่อนตัวที่ขอนแก่นและมหาสารคาม เจ้าตัวสารภาพสิ้นก่อเหตุเพราะหมั่นไส้ ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ต.ค.2565 พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2 พร้อมด้วย พ.ต.ท.กฤษณัฐ มนัส รอง ผกก. 1ฯ, พ.ต.ท.วโรดม ใบเรือ สว.กก.1ฯ และ ร.ต.อ.ธานินทร์ เทพชารี รอง สว.กก.1ฯ สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยว, กก.2 บก.ป., และ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นำหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัว จ.นนทบุรี ที่ 5/2565 ลงวันที่ 16 ส.ค. 2565 เข้าทำการจับกุมตัว นายจอนนี่ ฉายา จอนนี่ เมืองนนท์ อายุ 17 ปี ชาว ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ขณะหลบหนีมาซ่อนตัวในเขต จ.ขอนแก่น และ จ.มหาสารคาม ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทำการจับกุมตัวได้ภายในบ้านพักที่ ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคามและถูกควบคุมตัวมาทำการอบสวนที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับเพื่อน 2 คนก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนักเรียนโรงเรียนศรีบุญญานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี จริง ก่อนที่จะหลบหนีมากบดานที่ จ.ขอนแก่น และจ.มหาสารคาม เนื่องจากกลัวความผิด โดยในช่วงระหว่างหลบหนีนั้นได้ทราบว่า เพื่อนที่ร่วมขบวนการนั้นถูกจับกุมหมดแล้ว ขณะที่มูลเหตุของการก่อเหตุนั้นคงเป็นอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากไม่รู้จักคู่กรณีมาก่อน แต่ได้มองหน้ากันและเขม่นกันจึงตามมายิงดังกล่าว

พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2 กล่าวว่า การปฎิบัติกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีอาญาโดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืน เป็นนโยบาบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้เน้นย้ำแนวทางการปฎิบัติและให้มีการระดมกวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีการสืบทราบว่าผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชน ที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “จอนนี่ เมืองนนท์” ซึ่งได้ก่อเหตุยิงนักเรียนในพื้นที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี แต่กระสุนพลาดเป้าได้หลบหนีมาซ่อนตัวในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจท่องเที่ยวอีสาน ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนและประสานข้อมูลร่วมกับ บก.ป. และ สภ.รัตนาธิเบศร์ จนนำมาสู๋การจับกุมดังกล่าว

“จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นนักเรียน กศน.และมีอาชีพรับจ้างติดตั้งกระจกอลูมิเนียม ในวันที่เกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 16.00 .ผู้ต้องหาพร้อมพวกอีก 3 คนที่เป็นเยาวชนได้มานั่งเล่นอยู่ภายในวัดที่ติดกับ โรงเรียนศรีบุญญานนท์ ก่อนที่คู่กรณีซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนศรีบุญญานนท์ ได้เลิกเรียน จึงมานั่งเล่นที่วัดดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีการมองหน้ากัน และทันทีที่คู่กรณีขับรถจักรยานยนต์ออกไปด้วยกัน 2 คน ผู้ต้องหาทั้ง 3 จึงขับรถจักรยานยนต์ไล่ตาม ก่อนที่นายจอนนี่ จะใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่ซื้อมาจากอินเทอร์เนต ในราคากระบอกละ 2,500 บาทยิงเข้าใส่นักเรียนแต่กระสุนพลาดเป้าไม่ถูกใคร และหลังก่อเหตุได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่โดยผู้ที่ร่วมขบวนการก่อนหน้านี้ 2 คนได้ถูกตำรวจจับกุมตัวไปแล้ว”

พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาให้การว่าไม่รู้จักกับคุณกรณีมาก่อน เพียงแค่มองหน้ากันก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ตามมาก่อเหตุ อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อถึงสาเหตุของการใช้อ่าวุธปืนดังกล่าว ซึ่งจะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ก่อนจะทำการควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป