น้ำพองหนุนสูงอีกท่วม บ้านห้วยซัน ม.4 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น (มีคลิป)

น้ำพองหนุนสูงอีก มวลน้ำก้อนใหญ่ไหลแรงและเชี่ยว ชาวบ้านบางส่วนปรับตัวได้ บางส่วนยังต้องรอความช่วยเหลือเพราะไม่มีอาชีพเสริม


เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านห้วยซัน ม. 4 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ริมน้ำพอง ถูกน้ำพองเอ่อท่วมอย่างหนัก บ้านเรือน 220 หลังถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ชาวบ้านต้องอพยพมาอยู่ริมคลองชลประทาน ส่วนผู้ที่มีบ้านสองชั้น ก็ขนสิ่งของและเครื่องครัวขึ้นไปอยู่บนบ้านและสัญจรเข้าออกด้วยเรือส่วนตัว

ในขณะเดียวกันก็พบว่าชาวบ้านบางส่วนได้เดินลุยน้ำออกจากบ้านมารับถุงยังชีพยังจุดอพยพ โดยอาศัยราวเหล็กแนวกั้นพนังลำน้ำพองเป็นที่ยึดและเดินออกมา ระยะทางประมาณ 200 เมตร จากนั้นไปขึ้นสะพานไม้ ที่ชาวบ้านร่วมกันทำขึ้นเป็นทางเดินจากพนังกั้นลำน้ำพองมายังถนนสายเคียมห้วย โคกท่า ระยะทางแประมาณ 100 เมตร ซึ่งมีชาวบ้านหลายคนเดินลุยน้ำออกมายังจุดอพยพ เนื่องจากน้ำท่วมมาหลายวัน ยังโชคดีที่ ไฟฟ้ายังใช้ได้ แต่ต้องขนเครื่องครัวขึ้นบนชั้นสอง เพื่อทำกับข้าวกิน และการนำถังแก็สออกมา ก็เพื่อจะนำไปเติมให้เต็มถัง เพราะถ้าแก๊สหมด จะทำให้ครอบครัวลำบากไปมากกว่านี้

จากการลงพื้นที่สอบถาม นางสุเมตรา พิมพ์มหา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 บ.ห้วยซัน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นชาวบ้านห้วยซันที่มีอาชีพ ร้อยพวงมาลัยขายและขายปลาสด ปลาแดดเดียวที่ตลาดแลงบ้านคำไฮ ซึ่งมีบ้านปูนสองชั้น ชั้นล่างถูกน้ำท่วมไปบางส่วน กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพร้อยมาลัยขายที่ตลาดเย็นบ้านคำไฮ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อน้ำท่วมหมู่บ้านและทางเข้าออกหมู่บ้าน ที่ปีนี้น้ำท่วมสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ก็จะลำบากในการเดินทาง เพราะน้ำขึ้นสูงทุกวัน และน้ำไหลเชี่ยวมาก เป็นอันตราย โดยเฉพาะคนแก่และเด็ก ปีนี้น้ำมากกว่าปี 60 มวลน้ำเอ่อล้นเข้ามาถึงในบ้าน

ชาวบ้านมีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อเอาตัวรอด และครอบครัวจะไม่ได้ลำบากอะไรมาก แต่ในส่วนของชาวบ้านห้วยซัน ที่ได้รับความเดือดร้อนนั้นมีหลายครอบครัว ที่ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ทำไร่ หากินตามวิถีชีวิตชาวบ้าน ก็จะลำบาก เพราะต้องรอรับของแจก รอรัยถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

“ตัวเองกับครอบครัวไม่ได้ปรับตัวอะไรมาก เพราะขายของที่ตลาดสด ก็จะซื้อกับข้าวกลับมาที่บ้านทุกวัน แต่จะลำบากในเรื่องของการเดินทางเข้าหมู่บ้าน เพราะไม่สามารถใช้รถได้ ต้องใช้เรือในการเดินทางเท่านั้น ซึ่งครอบครัวของตนเองก็มีเรือไว้ใช้สัญจรเตรียมพร้อมไว้ เพราะประสบการณ์ของคนที่นี่มีการปรับตัวทุกครั้งที่มีน้ำท่วม ในทุกๆวันจะออกจากบ้านเวลาบ่ายสองโมง ไปขายพวงมาลัย และขายปลา จะกลับเข้าบ้านในช่วง 2-3 ทุ่ม โดยจะนำข้าวของใส่เรือแล้วเดินเข้ามา แม้น้ำจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ไหลเชี่ยวแรง แต่การขายพวงมาลัย ขายปลา ก็ยังทำได้ เพราะมีลูกค้าประจำสั่งซื้อไม่ขาดสาย ทำให้มีรายได้ ไม่มีผลกระทบเพราะรู้จักช่วยเหลือตัวเองก่อน ก่อนที่จะรอให้คนอื่นมาช่วย เฉลี่ยขายได้ตกวันละ 1,000 บาท ส่วนปลาขายได้ 2,000-3,000 บาท และยังขายในราคาก็ขายปกติ ไม่มีการขึ้นราคา”

นางสุเมตรา พิมพ์มหา ยังฝากถึง สส. และ สจ.ในพื้นที่ด้วยว่า ช่วยมาดูประชาชนในเขตตัวเองบ้าง เพราะตั้งแต่น้ำท่วมยังไม่เห็นหน้าเลย เวลามาหาเสียง มาทั้งพี่ทั้งน้อง แต่เวลาชาวบ้านห้วยซันถูกน้ำท่วม เดือดร้อนไม่เห็นมาเลย น้ำดื่มก็ยังไม่มีช่วยชาวบ้าน เห็นแต่ของหน่วยงานอื่น แต่ของ สส.กับ สจ. สองพี่น้องยังไม่เห็นมาเลย

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง