คันดินกั้นลำห้วยใหญ่ขาด10เมตรน้ำทะลักท่วมนาข้าวหวั่นท่วมเมืองขอนแก่น (มีคลิป)

นายกเทศมนตรีตำบลสำราญลงพื้นที่จุดที่คันดินกั้นลำห้วยใหญ่ขาดยาว 10 เมตร เร่งประสานรถแมคโครนำบิ๊กแบ็คอุดคันดิน หลังน้ำทะลักท่วมที่นา หากเอาไม่อยู่ หวั่นน้ำท่วมเมืองขอนแก่น


เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 28 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สำรวจจุดที่คันดินกั้นลำห้วยใหญ่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่บ้านโคกนางาม ม.2 และ ม. 12 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการสำรวจพบว่า จุดที่คันดินขาดนั้น อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กม.ต้องเดินเท้าเข้าเนื่องจากถนนที่สัญจรไปมานั้นถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 30 ซม. มีเพียงรถไถนาขนาดใหญ่ ที่สามารถเข้าไปยังจุดที่คันดินขาดได้

โดยพบว่า นายอาคม ศิลปดอนบม นายกเทศบาลตำบลสำราญพร้อมเจ้าหน้าที่และชาวบ้านรวมถึงเจ้าหน้าที่ชลประทานจังหวัดขอนแก่น พากันขับรถไถขนไม้ยูคาลิปตัสและถุงบิ๊กแบ้ก เข่าไปในจุดที่คันดินขาด เพื่อเตรียมปิดจุดที่ขาด ไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่พื้นที่เขตในเมืองขอนแก่น

นายอาคม ศิลปดอนบม นายกเทศบาลตำบลสำราญ กล่าวว่า ช่วงสายที่ผ่านมาชาวบ้านแจ้งว่า คันดินกั้นลำห้วยใหญ่ขาดประมาณ 10 เมตร น้ำจากลำห้วยทะลักท่วมนาข้าว จึงรีบมาตรวจสอบและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ชลประทานจังหวัดขอนแก่นให้ทราบ รวมถึงรายงานให้นายอำเภอเมืองขอนแก่นทราบทันที จากนั้นจึงขนถุงบิ๊กแบ็คมา 50 ถุง และชาวบ้านก็ช่วยกันตัดต้นยูคาลิปตัส มาให้เพื่อทำเป็นเสากั้น ในการที่จะเอาถุงบิ๊กแบ็คลง อุดในจุดที่คันดินขาด แต่อุปกรณ์ไม่พร้อมจึงได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์มาช่วย ซึ่งทาง มทบ.23 จะส่งเจ่าหน้าที่ทหารมาช่วยจัดการให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้

“น้ำที่กัดเซาะคันดินจนขาด แล้วน้ำทะลักท่วมที่นาของประชาชนนั้น เป็นน้ำฝนที่ตกสะสมติดต่อกันมาหลายวัน ไหลมาจากพื้นที่สูงกว่าคือตำบลสาวะถีและตำบลบ้านค้อ ไหลลงห้วยใหญ่ ผสมกับน้ำที่สะสมในบึงในคลองธรรมชาติ รวมกันเป็นมวลน้ำก้อนใหญ่กัดเซาะคันดินริมห้วย ที่ชาวบ้านใช้เป็นถนนในการขนสินค้าทางการเกษตรขาด จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องปิดจุดที่ตันดินขาดให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นน้ำจะไปรวมกันในพื้นที่ตำบลศิลา ตำบลพระลับ อาจจะเอ่อท่วมในเขตเมืองขอนแก่นได้ และพื้นที่นาของประชาชนจะเสียหายหลายหมื่นไร่”

นายกเทศบาลตำบลสำราญ กล่าวอีกว่า หากไม่เร่งปิดจุดที่คันดินขาด ก็เกรงว่า หากเขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำเพิ่มเป็น 35 ล.บม.มาผสมกับน้ำพอง แล้วน้ำพองล้นตลิ่งทะลักเข้ามารวมกับน้ำในลำห้วยใหญ่ ประชาชนจะลำบากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะนอกจากน้ำท่วมที่นาแล้วยังจะถูกน้ำท่วมบ้านที่อยู่อาศัยอีก จึงต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุด และยังกังวลคันดินอีกจุดที่อยู่ห่างจากจุดที่คันดินขาดประมาณ 30 เมตร น้ำจากลำห้วยใหญ่ ล้นทะลักข้ามคันดิน ไหลลงที่นาของประชาชน และเกรงว่าคันดินจะขาดเพิ่ม จึงต้องรีบรายงานนายอำเภอให้ทราบเป็นการเร่งด่วน เพื่อหาแนวทางแก้ไข

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง