วงจรปิดจับภาพคนร้ายแอบย่องเข้ามาก่อเหตุกระชากถาดใส่เงินตู้ซักผ้าหยอดเหรียญหลบหนีไปอย่างลอยนวล พบล่าสุดก่อเหตุ 2 คืนติด ผู้เสียหาย 2 รายเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 221 ม.5 บ้านเพ็กน้อย ต.โสกนกเต็น อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านและร้านค้าของนางวารินทร์ เรืองฤทธิ์ อายุ 48 ปี ที่ถูกคนร้ายขโมยเอาถาดเก็บเงินในช่องหยอดเหรียญของเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 4 เครื่องที่ตั้งเรียงกันอยู่หลังร้านค้า แจ้งความกับตำรวจสภ.พลแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และตำรวจยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ เจ้าของเครื้องซักผ้า จึงอยากแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนในพื้นที่ ให้ระมัดระวังทรัพย์สินของตัวเองให้ดี

นางวารินทร์ เรืองฤทธิ์ อายุ 48 ปี กล่าวว่า เปิดร้านขายสินค้า และร้านขายลาบก้อย ขายเนื้อสด รวมถึงตั้งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไว้ที่หลังร้าน ให้บริการชาวบ้านจำนวน 4 เครื่อง โดยได้จัดทำสถานที่ที่ตั้งเครื่องซักผ้า มีประตูเหล็ก เปิด-ปิด และมีวงจรปิดติดตั้งเอาไว้ ซึ่งจะทำการจัดเก็บเหรียญอาทิตย์ละ 1 ครั้ง จะได้เงินประมาณ 3,000-4,000บาท

“ช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่างจึงไม่ได้เปิดช่องเก็บเงินในเครื่องซักผ้าเพื่อเก็บเหรียญ กระทั่งวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 19.30 น.เป็นรอบแรก ที่คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มาขโมยเอาถาดใส่เหรียญของเครื่องซักผ้า จากนั้นคนร้ายก็มารอบที่สองในเวลา 20.40 น. โดยคนร้ายลักษณะเหมือนวัยรุ่นชายที่ไว้ผมบ๊อบ มาดึงเอาถาดใส่เงินของเครื่องซักผ้าไปรวม4 เครื่อง น่าจะได้เงินไปประมาณ 7,000 บาท”

นางวารินทร์ กล่าวอีกว่า ช่วงเวลาที่คนร้ายก่อเหตุ ก็เป็นช่วงที่ยังมีชาวบ้านและลูกค้าเข้าออกในร้าน แต่คนร้ายก็ยังกล้าลงมือ เมื่อเห็นภาพคนร้ายจากวงจรปิดที่บันทึกเอาไว้ได้ จึงนำเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความ แต่ตำรวจก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ จึงอยากแจ้งเตือนไปยาวบ้านในหมู่บ้านและชุมชนต่างๆระวังรักษา ทรัพย์สินของตัวเองให้ดี เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกโจร มาลักทรัพย์ได้

จากนั้นผู้สื่อข่าวยังเดินทางไปยังหอพัก โอเคยายสอน เลขที่ 8/1 ชุมชนหนองแวง 4 ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นหอพักของนายวิยนต์ สนิทท้าว อายุ 56 ปี และเป็นอีกหนึ่งจุดที่ถูกคนร้ายเข้าไปขโมยเอาถาดใส่เงินในเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไปพร้อมเงินประมาณ 80-120 บาท

นายวิยนต์ สนิทท้าว อายุ 56 ปี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่คนร้ายเข้ามาขโมยเอาถาดใส่เงินในเครื่องซักผ้า ในช่วงเวลา 01.00 น.คืนวันที่ 16 ก.ค.ต่อเนื่องวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายเป็นชายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบสี ยี่ห้อ โดยคนซ้อนท้ายลงมาถึงเอาถาดใส่เงินจากเครื่องจากผ้าไป 1 เครื่องมีเงินประมาณ 80-120 บาท แต่ยังไม่ได้แจ้งความ เพราะต้องการสืบหาเบาะแสคนร้ายก่อน ซึ่งเมื่อดูภาพคนร้ายจากวงจรปิดแล้ว เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 19-20 ปี ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และมักก่อเหตุลักทรัพย์ในชุมชนมาหลายครั้ง จึงขอเตือนภัยถึงชาวบ้านให้ดูแลรักษาทรัย์สินตัวเอง ปิดบ้าน ปิดทางเข้าบ้านให้เรียบร้อย อาจจะช่วยป้องกันการก่อเหตุของคนร้ายได้