ยายร่ำไห้พบตำรวจ ถูกคนร้ายย่องเงียบลักเงินสดแสนกว่าบาท ทอง 8 บาทถึงที่นอนนานนับเดือน คดีไม่คืบ ยื่นหนังสือตามความคืบหน้าของคดีและขอความเป็นธรรม

[ คลิป ]

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 มิถุนายน 2565 ที่สภ.พล จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.จันทโรภาส ชัยลา รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.พล รับหนังสือติดตามความคืบหน้าของคดีและขอความเป็นธรรม จากนางสมภาร มัครมย์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 11 ตำบลโนนขำาอำเภอพลจังหวัดขอนแก่น ผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์เงินสด และทองรูปพรรณ 8 บาท ถึงที่นอน เหตุเกิดคืนวันที่24 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา

นางสมภาร มัครมย์ อายุ 61 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ถึงในห้องนอน ขณะนอนหลับ  แต่ไม่ได้ล็อคประตูทางเข้าบ้าน เพราะลูกชายไปเก็บเห็ด จึงงับประตูไว้ และเข้านอน ส่วนประตูห้องนอนเป็นลูกบิด ได้ล็อคเรียบร้อยแล้วจึงนอน เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา ก็พบกระเป๋าไปวางไว้บนตู้ ที่นอกห้องนอน โดยเงินสดจำนวนแสนกว่าบาท เป็นเงินเก็บและเงินที่เพิ่งขายข้าวเปลือกมาได้ และสร้อยคอทองคำ กำไลข้อมือรวมน้ำหนัก 8 บาท ที่ใช้กระดาษทิชชูห่อไว้ในกระเป๋า ถูกคนร้ายขโมยเอาไป ทิ้งไว้แค่เศษกระดาษทิชชู  รวมเงินสดและทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไปประมาณสามแสนกว่าบาท  มาแจ้งความกับตำรวจสภ.พล  ตำรวจลงพื้นที่ไปเอาเศษกระดาษทิชชู กับกระเป๋าที่ใส่เงินสดและทอง กลับมาที่สภ.พล โดยบอกว่า จะส่งให้พิสูจน์หลักฐานตรวจหาลายนิ้วมือคนร้าย

“ยายติดตามความคืบหน้ากับตำรวจที่รับแจ้งเหตุมาอย่างต่อเนื่อง จนเวลาผ่านไปเดือนกว่า ไม่มีความคืบหน้า ติดต่อกับตำรวจนายดังกล่าวก็ไม่ได้  จนมาทราบว่า นายตำรวจรายดังกล่าว ย้ายไปที่อื่นแล้ว ยังไม่มีตำรวจนายอื่นมาทำคดีต่อ  ทำให้ไม่สบายใจ เพราะผู้ที่ยายสงสัยและอยากให้ตำรวจเอาตัวมาสอบก็ให้รายละเอียดไปหมดแล้ว แต่ตำรวจไม่บอกกล่าวให้มีความสบายใจเลย เหมือนตำรวจไม่สนใจ ไม่ใส่ใจในความเดือดร้อนของประชาชน  เพราะยายต้องการให้ตำรวจจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ ส่วนทรัพย์สินถ้าได้คืนก็จะดีมาก  แต่ติดต่อตำรวจเจ้าของคดีไม่ได้เลยจึงได้ทำหนังสือ ติดตามความคืบหน้าของคดีและขอความเป็นธรรม จาก ผกก.สภ.พลเพื่อทราบดังกล่าว  และเมื่อได้พูดคุยกับตำรวจก็พอจะเข้าใจ แต่ก็ยังยืนยันว่า ต้องการให้จับคนร้ายให้ได้ จะได้ไม่ก่อเหตุกับคนอื่นอีก

ทางด้าน พ.ต.ท.จันทโรภาส ชัยลา รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.พล  กล่าวภายหลังรับหนังสือจากนางสมภาร มัครมย์ ว่า  ตำรวจมีการโยกย้ายจริง  แต่คดีของผู้เสียหายนั้นไม่ได้ทิ้งและไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะมีพนักงานสอบสวนมาทำงานต่อ  โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์หาลายนิ้วมือของคนร้าย โดยเจ้าหน้าที่ศพฐ.4 ขอนแก่น  ซึ่งรายละเอียดนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นสำนวนคดี  ส่วนผู้ต้องสงสัย ก็นำตัวมาสอบสวนแล้ว 2 คน ก็เปิดเผยรายละเอียดไม่ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ชุดสืบสวนสภ.พล ก็ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีหรือใช่สัญจร แต่ยังไม่พบคนต้องสงสัยขณะนี้เหลือเพียงการเอาลายทองรูปพรรณของผู้เสียหายที่หายไป ส่งให้ร้านทอง เพื่อตรวจพิสูจน์ เมื่อมีคนนำทองมาขายที่ร้าน เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย และขอยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งเฉย ยังคงติดตามคนร้ายให้อย่างต่อเนื่อง

และนอกจากนี้ยายบอกอีกว่า ในใจสงสัยผู้หญิงอ้วนอยู่ 1 คน ที่ปกติเคยมาเล่นด้วยประจำ มายืมเงินประจำ ตอนนี้ก็หายไปไม่มาหาเหมือนเดิม จากคนเคยพูดคุยกันก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จนเกิดความสงสัยว่าจะเป็นคนเอาทองกับเงินสดของตนเองไปนอกจากนี้ยังได้เดินทางไปดูหมอ ซึ่งยายก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะหมอดูคู่กับหมอเดาแต่เท่าที่ได้ดูหมอนั้น หมอดูเอาแต่ชื่อสกุลของตนเองไป และทำการดูทรัพย์สินที่หายไปบอกว่าเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย และบอกว่าผู้หญิงมีลักษณะอ้วน เป็นคนในหมู่บ้านไม่ใช่คนในครอบครัว และยังไม่หนีไปไหนยังอยู่ในหมู่บ้าน ยิ่งทำให้ตนเองสงสัยหญิงรายนี้มากขึ้น จึงอยากให้ทางตำรวจเร่งหาพยานหลักฐานจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว