รวบ “ออยร้อยหน้า” เท้าแชร์ “บ้านร่ำรวย” ขณะซ่อนตัวภายในบ้านพักที่ขอนแก่น

ตร.ทท. ร่วม บก.ป. รวบ “ออยร้อยหน้า” เท้าแชร์ “บ้านร่ำรวย” ขณะซ่อนตัวภายในบ้านพักที่ขอนแก่น พบหมายจับ ต่างๆทั่วไทย ผู้เสียหายนับร้อยราย มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท ขณะที่โรงพักต่างๆทยอยขออายัดตัวแล้ว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 พ.ค.2565 พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2 (ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร รอง ผกก.1 บก.ทท.2 ,พ.ต.ท.วโรดม ใบเรือ สว.กก.1 บก.ทท.2 สนธิกำลังร่วม พ.ต.ท.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน กก. 2 บก.ป. และ ชุดสืบสวน กก.1 บก.ทท.2 นำหมายศาลค้นของศาล จ.ขอนแก่น ที่ ค.152/2565 ลงวันที่วันนี้ หมายจับศาล จ.จันทบุรี ที่ 221/2564 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และ หมายจับของ ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.808/2564 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เข้าทำการจับกุมตัว น.ส.สิริธร ตรันเจริญ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/4-5 ถ.นิกรสำราญ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขณะกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านพัก เลขที่ 551 ม.8 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานร่วมฝ่ายปกครองและผู้นำชุมชน นำหมายศาลแสดงต่อผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหายืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายค้นและหมายจับ จริง จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักและควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น

พ.ต.อ.วิเชียร วชริแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2 กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา และทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังสถานีตำรวจที่ออกหมายจับผู้ต้องหารายดังกล่าวแล้ว ซึ่งเบื้องต้นตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับรวมทั้งหมด 7 หมายในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกง และ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งชุดสืบสวนร่วมตำรวจท่องเที่ยวและกองปราบปรามได้ประสานงานไปยังสถานีตำรวจที่ต้องการตัวผู้ต้องหาแล้ว และทราบว่า สภ.เมืองจันทุบุรี และ สภ.แก่งหางแมว ประสานขออายัดตัวและส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประสานตัวแล้ว

“ผู้ต้องหาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ออยร้อยหน้า ที่ได้ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายให้นำเงินมาลงทุนกับตนเองทางออนไลน์ โดยให้ผลตอบแทนที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่สถาบันการเงินกำหนด รวมทั้งให้ผลตอบแทนเป็นทองคำรูปพรรณควบคุู่กันไปด้วย โดยตั้งกลุ่มเพจและไลน์ ในชื่อ บ้านร่ำรวยออมเงินออมทอง, 8ออมเงินออมทอง8, บ้านร่ำรวย และอีกหลายรายชื่อ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบและสอบสวน จึงยังคงไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะจะกระทบกับสำนวนการสอบสวน โดยมีพฤติกรรมแนะนำให้ผู้เสียหายร่วมออมเงินออมทอง กับตนเอง ที่มีลักษณะการหลอกลวงให้คนหลงเชื่อที่แตกต่างกันไป เช่น หากลงทุนกับบ้านร่ำรวยออมเงินออมทอง 100,000 บาทจะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนเป็นเงินจำนวน 124,000 บาทและทองคำอีก 1 สลึงภายใน 3 วัน ซึ่งมีผู้เสียหายที่ทยอยทราบข่าวการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ได้มาชี้ตัวแล้ว 20 คน มูลค่าความเสียหายรวมหลายล้านบาท แต่จากการตรวจสอบพฤติกรรมจากเพจและไลน์ ที่ผู้ต้องหาได้ติดต่อกับผู้เสียหายพบว่ามีคนหลงเชื่อร่วมลงทุนนับ 100 รายมูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท และทันทีที่หลอกลวงเสร็จออยร้อยหน้า ก็จะปิดเพจและไลน์ทันที”

พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่ออีกว่า เมื่อผู้ต้องหาหลอกลวงผู้เสียหายและได้เหยื่อเยอะแล้ว ก็จะทำการปิดเพจ และไลน์ทันที จากนั้นก็จะต้องไลน์กลุ่มใหม่ และเพจชุดใหม่ ขึ้นมาและทำการลอกลวงผู้เสียหายในลักษณะเดียวกัน โดยกระทำการลักษณะเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ชุดสืบสวนร่วม บก.ทท. 2 และ บก.ป. ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมผู้ต้องหารายนี้มานานกว่า 1 ปี จนกระทั่งสืบทราบว่ามาหลบซ่อนตัวในเขต จ.ขอนแก่น จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว

“จากการตรวจสอบ ขณะนี้พบว่าผู้ต้องหารายนี้ ที่เป็นที่รู้จักกันในโลกออนไลน์ว่า ออยร้อยหน้า มีหมายจับของศาล จ.เพชรบุรี, ศาลอาญาพระโขนง, ศาลจังหวัดเลย, ศาลแขวงขอนแก่น, ศาล จ.จันทบุรี, ศาลอาญามีนบุรี, ศาล จ.สมุทรปราการ, ศาล จ.ขอนแก่น และ ศาล จ.พัทยาในความผิดฐานฉ้อโกง, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และ พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องการตัวอย่างมากเนื่องจากเป็นนโยบายเร่งด่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งรัดการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่มีความผิดในลักษณะดังกล่าวมาดำเนินคดีให้หมด

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหาย ได้ทยอยมาชี้ตัวและแจ้งความเอาผิดกับผู้ต้องรายดังกล่าว เนื่องจากเป็นภัยสังคม ที่หลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่มานาน อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงได้ควบคุมตัว นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี เพื่อดำเนินตามขั้นตอนของกฎหายต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง