ชาวขอนแก่น ไม่เห็นด้วยหลังรัฐยกเลิกการควบคุมราคาน้ำมันดีเซล ชี้กระทบหนักแน่ และไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด พร้อมระบุราคาน้ำมันดีเซลไม่ควรเกินลิตรละ 28 บาท

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 เม.ย.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนในเขต จ.ขอนแก่น ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลโดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 พ.ค.)

นายปราโมทย์ ศรีบุระ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 259 ม.9 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น อาชีพเกษตรกรและรับจ้าง กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลจะปล่อยให้น้ำมันดีเซลลอยตัว โดยส่วนตัวยอมรับว่าไม่เป็นธรรมกับประชาชนอย่างชัดเจน เพราะรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาได้อยู่แล้วแต่ไม่ค่อยใส่ใจประชาชนในระดับรากหญ้า จะมองเห็นแค่นายทุนเป็นหลักและก็ไปแก้ปัญหาให้นายทุนมากกว่าแก้ปัญหาให้ประชาชน ส่วนชาวบ้าน ชาวไร่ชาวนา รัฐบาลชุดนี้ไม่ค่อยใส่ใจ ถ้าขึ้นราคาน้ำมันดีเซลก็จะกระทบไปยังสินค้าชนิดต่างๆ ซึ่งก็จะทำให้ขึ้นราคากันอย่างต่อเนื่อง

“ตอนนี้ประชาชนต้องเผชิญปัญหากับโรคระบาดโควิด-19 ทั้งตกงาน ไม่มีงานทำ การขึ้นราคาน้ำมันตอนนี้ ก็จะทำให้สินค้าแพงขึ้น ดังนั้นการแก้ปัญหาของรัฐบาลควรจะลดภาษีน้ำมันลงมาและนำเงินกองทุนน้ำมันที่รัฐบาลเคยเก็บไปตลอดหลายสิบปีนำกลับมาพะยุงราคาน้ำมันในตอนนี้ให้ทรงตัวจนกว่าสถานการณ์หรือโรคระบาดจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือต้องรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมาจากฝ่ายประชาธิปไตยจึงจะสามารถแก้ปัญหาจุดนี้ได้เพราะการขึ้นราคาน้ำมันเป็นต้นทุนการขนส่ง”

นายปราโมทย์ กล่าวต่ออีกว่า ครอบครัวต้องไปทำไร่ไถนาต้องใช้น้ำมันดีเซลทุกวัน หลังจากนั้นมารับจ้างขนของบรรทุกของ ซึ่งถ้าราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นต้นทุนก็จะเพิ่มขึ้น จะให้ไปเรียกค่าขนส่งจากคนที่มาจ้างก็ไม่กล้าที่จะทำเพราะทุกคนเดือดร้อนอยู่แล้ว กำไรแทบจะไม่มีให้เห็น หากจะปรับตัวคงปรับยาก ถ้าจะใช้รถจักรยานยนต์ ก็ใช้ได้เป็นบางครั้งและตามลักษณะของงาน ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งช่วยเหลือโดยการพะยุงราคาและช่วยเหลือแบบจริงจังกว่านี้ และราคาน้ำมันควรจะอยู่ที่ 27-28 บาทต่อลิตร ซึ่งถือว่ากำลังพอดีในยุคนี้