ขอนแก่น อาชีวฯจับมือศูนย์โอทอป แปรรูปมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เป็นแยมมะม่วงสูตรขอนแก่น ในยุคจูราสสิคพาร์ค (มีคลิป)

อาชีวศึกษาขอนแก่น จับมือ ขอนแก่น โอทอป แปรรูปมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เป็นมามาเร็ตมะม่วง แยมมะม่วงในยุคจูลาสิคพาร์ค พร้อมต่อยอดสินค้าแปรรูปสู่การช่วยเหลือเกษตรกรในระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน หลังปีนี้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองขอนแก่นให้ผลผลิตกว่า 1,300 ตัน


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 เม.ย.2565 ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น น.ส.กรรณิกา ยอดสง่า ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น พร้อมด้วย นายสมเกียรติ ปันจันดา ประธาน บริษัท ขอนแก่น โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ จำกัด และนางสิริพร จังตระกุล นายกเหล่ากาชาด จ.ขอนแก่น ที่ปรึกษาศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาสินค้าโอทอป ขอนแก่น ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือส่งเสริมพัฒนาวิสาหกิจชุมชน จ.ขอนแก่น ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตร ระหว่างวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น กับ บ.ขอนแก่น โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ จำกัด ในการผลิตแยมมะม่วงจากมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ของวิสาหกิจชุมชนบ้านป่าปอ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โดยมีเกษตรกร รวมทั้งนักวิชาการและนักโภชนาการทางอาหารร่วมเป็นสักขีพยานอย่างพร้อมเพรียง

นางสิริพร จังตระกุล นายกเหล่ากาชาด จ.ขอนแก่น กล่าวว่า มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เป็นผลไม้ไทยที่ขึ้นชื่อระดับโลก ซึ่งขอนแก่น เป็นพื้นที่ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นลำดับต้นๆของไทย ปัจจุบัน มีเกษตรที่ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ที่เป็นเกษตรแปลงใหญ่ รวมทั้งสิ้น 2,300 ไร่ มีการจดเป็นวิสาหกิจชุมชนอย่างถูกต้อง 7 แห่ง และในปี 2565 มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากถึง 1,300 ตัน โดยในปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าภาวะมะม่วงล้นตลาด หรือการส่งจำหน่ายมะม่วงไม่ได้จากผลพวงมาจากสถานการณ์โควิด ทำให้ในปีนี้คณะทำงานร่วมทุกฝ่ายจึงได้กำหนดแผนงานในการแปรรูปมะม่วงเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้รับการสนับสนุนจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น โดยสาขาอาหารและโภชนาการ ที่มีคณาจารย์และคณะทำงานด้านโภชนาการและคหกรรมที่โดดเด่น จึงได้ร่วมกันผลิตและคิดค้นสูตรแยมมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ที่เป็นสูตรของคนขอนแก่น ได้สำเร็จและขณะนี้เข้าสู่กระบวนการผลิต ชุดที่ 1 จำนวน 400 กก.

“โครงการแปรรูปแยมมะม่วง ที่คิดค้นขึ้นจากผลผลิตของขอนแก่นและสูตรของขอนแก่น โดยชุดแรกที่จัดทำขึ้นนั้นได้นำมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง 400 กก. จากวิสาหกิจชุมชนบ้านป่าปอ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น มาจัดทำเป็นแยมบรรจุในขวดขนาด 230 กรัม รวมชุดแรก 1,500 กระปุก จำหน่ายประปุกละ 100 บาท โดยแยมมะม่วงขอนแก่น ที่คิดค้นขึ้นนี้นั้นมีส่วนผสมจากเกลือสินเธาว์ จาก อ.ภูเวียง ซึ่งเป็นเกลือในสมัยจูราสสิคพาร์คหลายร้อยล้านปี ที่เป็นส่วนผสมที่มีเรื่องราวและคงอัตลักษณ์ของขอนแก่นได้อย่างลงตัว ขณะที่สูตรการทำแยมมะม่วงนั้น คณะทำงานก็ไม่หวงสูตร โดยสูตรมามาเร็ตมะม่วง เราใช้มะม่วง 400 กก. ซึ่งเมื่อนำมาปอกเปลือก นำเมล็ดออกและหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมก็จะได้เนื้อมะม่วงประมาณ 3,000 กรัม ขณะที่ส่วนผสมก็ไม่มาก ประกอบด้วยน้ำตาลทรายขาว 1,200 กรัม, ผงเพคติน 50 กรัม, น้ำเปล่า 1,000 กรัม, น้ำสับประรด 500 กรัม, น้ำเลมอน 50 กรัม, ผิวเลมอน 15 กรัม และ กรด 35 กรัม”

นางสิริพร กล่าวต่ออีกว่า วิธีการทำแยมมะม่วงมามาเร็ตขอนแก่น คือนำมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง มาปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก จากนั้นใส่ลงหม้อ จากนั้นนำผงเพคตินแช่กับน้ำเปล่าทิ้งไว้ ขั้นตอนต่อมาคือการนำน้ำเปล่ากับผงเพคตินที่แช่ไว้มาผสมกับน้ำตาลทรายขาว และน้ำสับปะรด เมื่อผสมเสร็จนำตั้งไฟในระดับความร้อนปานกลาง ใส่มะม่วงลงไปเคี่ยวจนมะม่วงมีความข้น หนืด เหมือนซอส ซึ่งจะเคี่ยวประมาณ 1-2 ชม. เมื่อเคี่ยวจนได้ที่เหมือนซอสแล้ว ให้ปิดไฟแล้วเติมน้ำเลมอน และผิวเลมอนเข้าไปผสม พักไว้ให้อุ่นและเข้าสู่ขั้นตอนบรรจุ ซึ่งในการบรรจุนั้น ขวดและฝา ที่นำมาบรรจุนั้นต้องผ่านการลวกน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ เนื่องจากแยมมะม่วงของเรานั้นไม่ใช้วัตถุกันเสียหรือใส่สารกันบูด ซึ่งเมื่อบรรจุแล้วก็จะต้องทำการน็อคเย็นและเข้าสู่กระบวนการปิดฝาและซีลฝาทันที ซึ่งจะคงความหอม อร่อย และความเป็นแยมมะม่วงสูตรขอนแก่นได้อย่างลงตัว

“แยมมะม่วงขอนแก่น หรือมามาเร็ตมะม่วง ที่คิดค้นสูตรขึ้นมานี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรในภาวะฤดูผลผลิตของมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง โดยชุดแรกมะม่วง 400 กก. จัดทำแยมได้ 1,500 กระปุก จำหน่ายกระปุกละ 100 บาท ที่ศูนย์โอทอป ข้างศาลากลางจังหวัดหรือที่สายด่วน 085-8536169 และหลังจากเปิดฝามามาเร็ตมะม่วงแล้วสามารถจัดเก็บไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 เดือน ซึ่งจากการทดลองรับประทานพบว่าเหมาะสำหรับการทานคู่กับขนมปัง ทั้งขนมปังแผ่นและขนมปังญวณ หรือขนมปังเวียตนาม อย่างไรก็ตามหลังสิ้นสุดการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวหากวิสาหกิจชุมชนใดหรือกลุ่มเกษตรกรกลุ่มใดต้องการนำสุูตรของคณะทำงานไปต่อยอดผลผลิต หรือนำไปแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อก่อให้เกิดรายได้โดยไม่สงวนลิขสิทธิ์”

       

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง