ชาวเน็ตแชร์คลิปพระสงฆ์ทำพิธีกรรมบางอย่าง พร้อมกับพ่นไฟเป่าหอยสังข์ ท่ามกลางชาวบ้านมาร่วมพิธีจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพระไม่ออกมาพบแจงว่าไม่มีอะไรเป็นการทำเสริมดวงให้ลูกศิษย์เท่านั้น
มีกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “แม่ทัพลิง 3/1” โพสต์คลิปวีดีโอพระสงฆ์รูปหนึ่งกำลังทำพิธีกรรมบางอย่างอยู่บนสนามหญ้าภายในวัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งพระสงฆ์รูปดังกล่าวมีการพ่นไฟออกมาจากปากหลายครั้ง พร้อมทั้งมีการเป่าหอยสังข์ท่ามกลางชาวบ้านมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก พร้อมกับระบุข้อความว่า “หลวงพ่อครับพิธีกรรมอะไรครับนั้น พ่นไฟเอ๋ย เป่าหอยสังข์เอ๋ย”
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบไปที่วัดป่าศรีนาแพง บ้านหนองปอ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งได้พบกับ นางเดือน กิดเกียน อายุ 59 ปี มารดา พระธวัชชัย อายุ 38 ปี กำลังเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารอยู่ภายในกุฎิพระธวัชชัย ซึ่งทั้งวัดมีพระจำวัดอยู่รูปเดียว และเป็นพระที่ปรากฏในคลิปที่มีการแชร์อยู่ในโซเชียล จากการสำรวจภายในกุฏิบริเวณชั้นล่าง พบผ้าคลุมฤๅษี ศาสตราวุธชนิดต่างๆ เศียรครู-พ่อแก่ สำหรับทำพิธี และอื่นๆที่ใช้ในพิธีบวงสรวงและไหว้ครูที่ปรากฎในคลิปโดยหลังจากประกอบพิธีเสร็จได้นำมาเก็บไว้อยู่ภายในกุฏิพระธวัชชัย และจากการสำรวจรอบๆบริเวณวัด หน้าศาลาการเปรียณมีพื้นที่โล่งกว้างสำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ มีพลุ มีเศษประทัดและร่องรอยไฟไหม้หญ้า ลามเป็นวงกว้าง และมีพระพุทธรูปปางต่างๆประดิษฐานอยู่รอบรบริเวณหน้าวัด
จากการสอบถามนางเดือน ทราบว่า พระธวัชชัย ไม่สะดวกพบ และบอกว่าพิธีกรรมนั้นก็ไม่มีอะไรเป็นการทำพิธีเสริมดวงให้กับลูกศิษย์ลูกหาที่เดินทางมาร่วมพิธีไหว้ครูปู่ฤๅษีตาไฟ ซึ่งจะมีการทำทุกปีในช่วงสงกรานต์ และพิธีที่ปรากฏในคลิปนั้นทำเมื่อวันที่ 16 เม.ย.2565 ที่ผ่านมา โดยพระมาจำวัดอยู่ที่นี้นานกว่า 16 ปีแล้วและก็มีการทำพิธีดังกล่าวตั้งแต่มาอยู่ แต่ในปีนี้จะมีลูกศิษย์มาน้อยเนื่องจากกลัวเรื่องของไวรัสโควิด-19ระบาด จึงมีแต่ลูกศิษย์ลูกหาบางส่วนมาร่วมในพิธีเท่านั้น
นางเดือนบอกอีกว่า พิธีกรรมดังกล่าวเรียกว่าพิธีไหว้ครูปู่ฤๅษีตาไฟ ซึ่งพระธวัชชัย นับถือปู่ฤๅษีตาไฟ ทำพิธีไหว้ครูดังกล่าวเพื่อนเสริมดวงบารมีและเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับลูกศิษย์ลูกหาที่มีอยู่ในหลายจังหวัดมาร่วมพิธี เป็นพิธีที่สืบต่อมาหลายสิบปีแล้ว และพิธีดังกล่าวพระธวัชชัยก็บอกว่าไม่มีอะไร เป็นการเสริมดวงเสริมบารมีให้ลูกศิษย์ลูกหาเท่านั้น
Leave a Response