แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างชื่อตำรวจขอนแก่นหลอกเหยื่อโอนเงินกว่า20ราย

แก๊งค์คอลเซนเตอร์อ้างชื่อเป็นตำรวจที่มีตัวตนจริง หลอกเหยื่อว่าโดนข้อหาพัวพันยาเสพติดพร้อมหลักฐานจากศาลหลอกให้เหยื่อโอนถ่ายเงินในบัญชีเพื่อตรวจสอบพบถูกหลอกกว่า 20 รายเสียหายหลายหมื่นบาท สุดท้ายพบถูกหลอกโร่โทรหาตำรวจตามเบอร์ติดต่อบอกไม่รู้เรื่อง

นี่คือหลักฐานที่ผู้เสียหายรายหนึ่ง อายุ 34 ปี ทราบต่อมาว่าเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทราใช้ในการแจ้งความหลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นตำรวจมาช่วยเรื่องคดีแล้วหลอกให้โอนเงิน โดยเล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.25 น.มีโทรศัพท์เรียกเข้าปลายสายเป็นเสียงหญิงสาวแจ้งว่าตนกำลังจะถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติผ่านบัตรเครดิตที่เปิดบัญชีไว้ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาเซนทรัลขอนแก่นโดยมีหมายคดีอาญาจากศาลจังหวัดขอนแก่นมาประกอบด้วย พร้อมสอบถามข้อมูลตน จึงแจ้งว่าตนไม่เคยเดินทางไปที่ขอนแก่น ซึ่งในช่วงนั้นตนเริ่มกังวลว่าจะถูกต้องคดีจริง ต่อมาได้โอนสายให้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่หลายคนจนกระทั่งคนสุดท้ายได้แนะนำตัวว่าเป็นตำรวจที่โรงพักแห่งหนึ่งในขอนแก่นพูดคุยอยู่นานเกือบ 2 ชม.ได้แนะนำให้ผู้เสียหายโอนถ่ายเงินในบัญชีเข้าบัญชีตามชื่อที่แจ้ง(ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาล) เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการข้ามชาติ แจ้งว่าจะใช้เวลาตรวจสอบ 7 วัน ซึ่งเงินจำนวนนี้จะใช้นำไปจ่ายค่าเทอมลูก ด้วยความกลัวจึงโอนเงินทั้งหมดจำนวน 21,569.26 บาท จนบัญชีมีเงินคงเหลือเป็นศูนย์ ต่อมาพยายามติดต่อกลับไปกลับพบว่าติดต่อไม่ได้ จึงคิดว่าน่าจะถูกหลอก เลยตัดสินใจติดต่อหาชื่อนายตำรวจตามที่ปลายสายแจ้งที่ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น พบว่ามีตัวตนจริง แต่เมื่อติดต่อไปกลับพบว่านายตำรวจท่านดังกล่าวไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นและเป็นเสียงคนละเสียงกับที่พูดคุยกัน

ด้าน นายตำรวจใน สภ.แห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ที่ถูกนำชื่อและเบอร์โทรไปแอบอ้าง เล่าว่า เมื่อ 2 วันก่อนมีผู้เสียหายหญิงชาว จ.ชลบุรี ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน โอนเงินให้มิจฉาชีพไปเกลี้ยงบัญชีกว่า 40,000 บาท และวันต่อมามีหญิงอีกรายจาก อ.วังน้อย จ.พระนครอยุธยา ไหวตัวทันโทรมาสอบถามจึงยังไม่ได้โอนเงิน และล่าสุดช่วงเย็นวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ถูกหลอกโดยใช้ชื่อตนไปหลอก อ้างต่อเหยื่อแต่ละคนเป็นยศต่าง ๆ เพื่อความน่าเชื่อถือ ทั้ง ร้องตำรวจเอก พันตำรวจตรีและล่าสุด พลตำรวจโท ซึ่งจริง ๆ แล้วตนมียศเพียงร้อยตำรวจเอก จนกระทั่งโอนเงิน 20,000 กว่าบาทเข้าบัญชีมิจฉาชีพ วันนี้จึงได้โพสเฟซบุ๊คแจ้งเตือนประชาชนให้ระมักระวังเรื่องการโอนเงินกับบุคคลที่อ้างมีข้อมูลต่าง ๆ ให้คิดว่าเป็นมิจฉาชีพมาหลอก ล่าสุดวันนี้พบว่ามีประชาชนและผู้เสียหายโทรเข้ามาสอบถามยังหน่วยงานที่ตนสังกัดเพื่อตรวจสอบข้อมูลแล้วกว่า 20 ราย เบื้องต้น ตนจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากตอนนี้ตนเป็นเสมือนผู้เสียหายรายหนึ่ง เพราะหากไม่ดำเนินการใด ๆ อาจจะเป็นผู้ต้องหาได้

 

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง