เลขาฯสาว นายกเล็ก แจ้งความถูกเมียตำรวจคุกคามจนต้องเลื่อนงานแต่ง

เลขาฯสาว นายกเล็ก หอบหลักฐานถูกเมียตำรวจซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขับรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านแล้วแอบถ่ายภาพไปโพสต์ลงในโซเชียลจนคนอื่นเข้าใจผิดได้รับความเสียหายทั้งชื่อเสียงและยังสร้างความหวาดกลัวให้กับคนในครอบครัวไม่กล้านอนบ้าน กระทั่งมารู้ความจริงว่าหญิงรายดังกล่าวเคยคบกับว่าที่สามีของตนเองซึ่งเลิกขาดกับหญิงรายนี้ไปเป็นปีแล้วจนต้องเลื่อนงานแต่งออกไป วอนตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่สภ.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นางสาวพัชรี เดชกุลชร อายุ 30 ปี เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อ อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.14 บ้านวังตอ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำเอกสารหลักฐานการถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพนิ่ง ซึ่งเป็นภาพหน้าบ้าน ที่มีการแอบถ่ายในเวลากลางคืน พร้อมข้อความในโพสต์ระบุว่า “บ้านวังตอก็แค่ปากซอย อย่าให้ได้อาละวาด” หลังการโพสภาพดังกล่าวมีผู้คนในโซเชียลมาเม้นถ้อยคำต่างๆนานาและยังมีการแชร์ภาพดังกล่าวไปในโซเชียลจนเกิดความเสียหายคนเข้าใจผิด จึงนำหลักฐานดังกล่าว เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ชูเกียรติ ไชยวิเศษ สว.(สอบสวน) สภ.ท่าพระ เพราะการกระทำของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และครอบครัวหวาดกลัว

ภายหลังการแจ้งความ นางสาวพัชรี เปิดเผยว่า ตนได้คบหากับแฟนหนุ่มมากว่า 1 ปี แต่ไม่เคยมีปัญหาและกำลังเตรียมจะแต่งงานกันในปีนี้ กระทั่งเมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมาพบโซเชียลแชร์ภาพหน้าบ้านตัวเอง ซึ่งเชื่อว่าเป็นภาพแอบถ่ายในตอนกลางคืน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว เอาภาพมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมข้อความระบุว่า “บ้านวังตอก็แค่ปากซอย อย่าให้ได้อาละวาด” และมีแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก และมีการคอมเม้นต์จากเพื่อนๆในเฟซบุ๊กของผู้ใช้รายนี้ เสมือนเข้าใจว่าเป็นการทวงหนี้ ซึ่งเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับคนในบ้าน อีกทั้งตนเองพยายามไปพูดคุยตอบคอมเม้นต์ว่าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง แต่เอาภาพบ้านตัวเองไปลงในโซเชียลและพิมพ์ข้อความแบบนี้อยากจะให้ลบและชี้แจงเพื่อไม่ให้คนเข้าใจผิด แต่กลับถูกผู้โพสต์ท้าทายให้ไปแจ้งความจะเอาทนายมากี่คนก็ไม่กลัว ในวันนี้จึงต้องเดินทางมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว และเลื่อนการแต่งงานออกไปก่อน

นางสาวพัชรี กล่าวต่ออีกว่า ไม่ได้รู้จักกันคนใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว จึงได้มีการสืบเรื่องราวจากเฟซบุ๊กดังกล่าว จนทราบว่าหญิงรายนี้ต้องการทวงเงินกับแฟนตน ซึ่งเมื่อได้พูดคุยทางเฟซบุ๊กกับรายดังกล่าวจึงทราบว่า เคยคบหากับแฟนฟนุ่มมาก่อน ทั้งที่สาวรายนี้ก็มีสามีเป็นตำรวจอยู่แล้ว และพบว่าสาวรายนี้ ก็ยังซื้อรถจักรยานยนต์และให้เงินผู้ชายใช้ เมื่อเลิกกัน จึงอยากได้รถจักรยานยนต์และเงินทั้งหมดคืน เมื่อตนรู้รายละเอียดจึงคุยกับแฟนหนุ่ม แฟนหนุ่มก็ยอมรับว่าเคยคบหากัน แต่เมื่อรู้ว่าฝ่ายหญิงมีสามีจึงเลิกคบไปนานแล้ว จึงให้แฟนหนุ่มเอารถจักรยานยนต์และเงินไปคืนให้สาวรายนี้ไปแล้ว 46,000 บาท และแฟนหนุ่มก็ไม่เคยติดต่อหรือพูดคุยกับฝ่ายหญิงอีก

นางสาวพัชรี เดชกุลชร อายุ 30 ปี เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อ ผู้เสียหาย
นางสาวพัชรี เดชกุลชร อายุ 30 ปี เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อ ผู้เสียหาย

ขณะนี้ตนกับแฟนหนุ่มไม่มีปัญหาอะไรกัน เพียงแค่ฝ่ายหญิงที่แฟนเคยคบหามาคุกคามไม่หยุดและยังถ่ายภาพหน้าบ้านโพสต์ในโซเชียล ซึ่งเป็นการไม่สมควร ทำให้ชาวบ้านและคนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าตนและคนในบ้านเป็นหนี้สิน และรู้สึกไม่ปลอดภัยที่ถูกคุกคาม จึงมาแจ้งความให้ตำรวจติดตามตัวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ซึ่งทราบชื่อนามสกุลทั้งหมดแล้วมาดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย

นางคณึงนิตย์ เดชกุลชร อายุ 49 ปี มารดาของนางสาวพัชรี
นางคณึงนิตย์ เดชกุลชร อายุ 49 ปี มารดาของนางสาวพัชรี

ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 1 หมู่ 14 ตำบลบ้านค้อ อ.เมือง ขอนแก่น พบกับนางคณึงนิตย์ เดชกุลชร อายุ 49 ปี มารดาของนางสาวพัชรี เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 30 มกราคม ไม่อยู่บ้าน เพราะไปทานข้าวที่บ้านยาย ต่อมามีคนมาบอกว่า มีการแชร์ภาพหน้าบ้านตนเองในเฟซบุ๊กพร้อมข้อความว่า บ้านวังตอก็แค่ปากซอย อย่าให้ได้อาละวาด จึงเกิดความกลัว ไม่กล้ากลับมานอนที่บ้าน เพราะลูกสาวไปต่างจังหวัด ก่อนที่วันต่อมาจะเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เวฬุวัน เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตราย ซึ่งส่วนตัวไม่เคยรู้จักคนที่โพสเฟซบุ๊กมาก่อน จึงกดเข้าไปดูรูปในเฟซบุ๊กดูหน้าแล้วก็ยังไม่รู้จักอยู่ดี จึงให้ญาติพี่น้องช่วยสืบดู จนทราบว่า คนที่โพสต์เฟซบุ๊กนั้นมีสามีเป็นตำรวจ ยิ่งทำให้กลัวเรื่องความปลอดภัย ไม่กล้านอนที่บ้าน จนต้องไปนอนกับญาติในคืนวันนั้น จึงอยากบอกว่า มีอะไรให้คุยกัน อย่ามาแอบถ่ายภาพข่มขู่กันเช่นนี้

นายคณิงนิตย์ บอกอีกว่า นอกจากข้อความและภาพนี้จะสร้างความไม่สบายใจและความหวาดกลัวแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าถูกดูหมิ่นว่าเป็นบ้านหมา เพราะในข้อความผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ยังไปตอบคอมเม้นต์ว่าไม่มีหมาสักตัว ตอนนี้แจ้งความไปแล้วทางตำรวจบอกจะเรียกมาพูดคุยแต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อมาจากตำรวจ กลัวในเรื่องของอิทธิพลเพราะหญิงรายดังกล่าวมีสามีเป็นตำรวจเหมือนกัน

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง