สาวขับรถยนต์กลับบ้าน ถูกรถขนน้ำแข็งปาดหน้ากระชั้นชิดจนเกือบชน เร่งเครื่องตามจะถามว่าปาดหน้าทำไม ถูกคนขับรถขนน้ำแข็งชักปืนยิงขู่ขึ้นฟ้าสองนัดนำหลักฐานเข้าแจ้งความ ตำรวจเรียกตัวผู้ก่อเหตุอายุ 22 ปี อยู่ในอาการมึนเมา

เมื่อเวลา 20.00 น. นางสาวชลธิชา วงศ์โคกสี อายุ 20 ปี ชาว ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำภาพจากกล้องติดหน้ารถของตนที่บันทึกภาพขณะที่กำลังขับรถออกจากหน้าร้านค้าเพื่อจะเดินทางกลับบ้านพัก จังหวะนั้นมีรถคู่กรณีซึ่งเป็นรถขนส่งน้ำแข็ง ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน บม454 ขอนแก่น ขับปาดหน้าในระยะกระชั้นชิดทำให้ต้องเหยียบเบรกกะทันหัน เมื่อตั้งสติได้จึงเร่งเครื่องตาม เพื่อจะถามว่าขับรถปาดหน้าตนทำไม แต่หลังจากขับตามไปได้ไม่ไกลถึงกลางชุมชนรถขนส่งน้ำแข็งได้จอดข้างทาง จังหวะนั้นคนขับได้เปิดกระจกรถแล้วยื่นมือออกมา โดยที่ในมือได้มีการกำสิ่งของทีมีลักษณะคล้ายอาวุธปืนสั้นหันปลายกระบอกปืนขึ้นฟ้าแล้วยิงออกไป 2 นัดทำให้นางสาวชลธิชาฯ รู้สึกตกใจมากเพราะเป็นผู้หญิงขับรถมาคนเดียวแล้วมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เหตุเกิดเมื่องวันที่ 9 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 17.00 น.

นางสาวชลธิชาฯ เล่าว่า หลังเกิดเหตุได้รีบขับรถกลับมาบอกตาและแม่ จึงได้พาเข้ามาแจ้งความที่ สภ.เมืองไหม ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่นเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุ ได้เรียกผู้ก่อนเหตุทราบชื่อ นายนัท อายุ 22 ปี ชาวตำบลโคกสี มีอาชีพขับรถขนส่งน้ำแข็ง ซึ่งพบว่าอยู่ในอาการมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ยอมรับว่ากระทำจริง และเมื่อตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุซึ่งเป็นปืนเด็กเล่นที่สามารถบรรจุแก้ปทำให้เกิดเสียงดังได้ โดยเบื้องต้นได้ตั้งข้อหา “ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน ชุมชน” และเปรียบเที่ยบปรับเป็นเงิน 500 บาท พร้อมควบคุมตัวไว้ให้ตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายเพิ่มเติมต่อไป

ด้านนายสมบูรณ์ สายขุน อายุ 72 ปี ตาของนางสาวชลธิชาฯ ผู้เสียหาย บอกว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากเป็นการทำให้หลานสาวตนเสียขวัญ แม้จะเป็นเพียงอาวุธปืนเด็กเล่นแต่ก็ทำให้เข้าใจว่าเป็นอาวุธปืนจริงได้ เพราะหากแค่ปรับแล้วปล่อยตัวอาจจะไปสร้างความเดือดร้อนหรือกระทำเช่นนี้อีก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ชายผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมชอบก่อเหตุและเข้าออกโรงพักบ่อย ซึ่งครั้งนี้ก็พบว่าอยู่ในอาการมีนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง ส่งเสียงโวยวายออกมาตลอดเวลา ขณะที่คุมขังต้องรอให้สร่างเมาก่อนจึงจะสอบสวนให้ละเอียดอีกครั้ง