หนุ่มขอนแก่นไปทำงานร้อยเอ็ดถูกยิงเสียชีวต ญาติเชื่อยิงผิดตัว (มีคลิป)

2

ย่าผู้ตายเผยมีลางสังหรณ์ตาขากระตุกหลายวัน ก่อนหลานชายจะถูกยิงเสียชีวิต คาดยิงผิดตัว เพราะหลานชายเป็นคนดี ไม่ดื่มสุรา ตั้งใจทำงานหาเงินดูแลครอบครัวมาโดยตลอด

      ญาติได้นำศพนายปิยะศักดิ์ ผงสา หรือ จอร์จชาวจังหวัดขอนแก่น ที่ถูกยิงเสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา มาบำเพ็ญกุศลที่วัดสระทอง อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า มีเพียงญาติใกล้ชิดมาร่วมงาน ภายใต้มาตรการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมคืนเดียว ก่อนจะประกอบพิธีฌาปนกิจในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้

      นางบุญโฮม มีใจใส อายุ 68 ปี ย่าของนายปิยะศักดิ์ ผู้เสียชีวิต บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เลี้ยงหลายชายคนนี้มาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อแม่แยกทางกัน เมื่อเรียนจบได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่พอมีการระบาดของโควิด-19 จึงได้กลับมาทำงานที่โรงฆ่าสัตว์กับเพื่อนที่จังหวัดร้อยเอ็ด หลานชายเป็นคนตั้งใจทำงาน ไม่เกเร ไม่ดื่มสุรา แต่ละเดือนจะส่งเงินกลับมาให้ใช้เดือนละ 2-3 พันบาท ก่อนที่จะเกิดเหตุตนเองมีลางสังหรณ์คือ ตาขวากระตุก มานานนับเดือนไม่หายสักที และตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงดังบนฝ้าเพดาน แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร กระทั่งเมื่อวานนี้(6 ก.ค.) เวลาประมาณหนึ่งทุ่ม ญาติได้มาบอกว่า หลานชายถูกยิงเสียชีวิต ตนเองตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงพาญาติพี่น้องเดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ดทันที เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้นำศพหลานชายไปที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ดแล้ว

      นางบุญโฮม ทราบจากญาติคนเจ็บอีกคนว่า หลังเลิกงานหลานชายได้มาเล่นที่บ้านเพื่อน ขณะที่นอนอยู่เปลใต้ถุนบ้าน มือปืนทราบชื่อว่า นายปอน ได้เดินเข้ามาที่บ้านเกิดเหตุ แล้วหลานชายพูดแต่เพียงว่า “อย่ายิงผมๆ” จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ส่วนเพื่อนที่เป็นเจ้าของบ้านได้ยินเสียงปืน จึงวิ่งลงมาทำให้ถูกยิงจำนวน 5 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนเองจึงคาดว่า คนร้ายน่าจะยิงผิดตัว เพราะขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลากลางคืน ทำให้มือปืนจำผิดตัว จึงยิงหลานชายโดยที่ไม่รู้เรื่องราว ส่วนรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมดคงต้องรอคำสารภาพของมือปืนหลังจากตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว เพราะอยากรู้ข้อเท็จจริงเหมือนกัน ว่าเหตุใดถึงลงมือฆ่าหลานชายตนเอง และอยากให้ทางครอบครัวผู้ก่อเหตุมาขอโทษและแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหลานชายถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว ตนเองก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร หรือขอรับการช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงานใด

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง