46 ประเทศ ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64

news2021_Faceb66666ook1

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ประกาศรายชื่อประเทศ 46 ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ดังนี้

          สำหรับการรายชื่อประกาศ 46 ดังกล่าวสืบเนื่องจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา “นายกรัฐมนตรี” ได้ประกาศจำนวนกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ 46 ประเทศ ตามแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว พร้อมย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกัน ดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม และคำนึงถึงสถานการณ์ด้านสาธารณสุข

          นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  “นายกฯ” เล็งเห็นว่า หากประเทศไทยต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศให้มากขึ้น กระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไทยจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าให้เร็วขึ้นและทำตั้งแต่ตอนนี้ เพราะการที่จะรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบก่อนนั้นจะทำให้ช้าเกินไป อีกทั้งนักท่องเที่ยวอาจจะตัดสินใจเลือกเดินทางไปประเทศอื่นก่อน แม้การเร่งเดินหน้าอย่างรวดเร็วนี้จะมีความเสี่ยงที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่เราต้องยอมรับประเทศไทยเองมีความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงของโควิด-19 ได้ดีขึ้น และเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิดให้ได้

          ทั้งนี้หลังจากที่ไทยได้ประกาศยกเลิกแผนการกักตัว ประเทศอื่น ๆ อาทิ อเมริกา อินโดนีเซีย (บาหลี) ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และมาเลเซีย ก็กำลังดำเนินการในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งมีการผ่อนคลายมาตรการข้อบังคับต่างๆ และหลาย ๆ ประเทศที่เป็นนักท่องเที่ยวของประเทศไทย ก็เพิ่งประกาศผ่อนคลายให้ประชาชนของประเทศนั้น เดินทางออกนอกประเทศได้ง่ายขึ้น

          นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำดังกล่าวได้โดยไม่ต้องกักตัว จะต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศและมีหลักฐานปลอดเชื้อโควิด โดยมีการตรวจก่อนออกเดินทาง และตรวจเมื่อมาถึงประเทศไทย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป แต่ทั้งนี้ทุกประเทศคงต้องพิจารณาความเสี่ยงของประเทศไทยด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะอนุญาตให้คนของประเทศเขาเดินทางมาประเทศไทยได้

          โฆษกรัฐบาล กล่าวต่อว่า “นายกฯ” ได้กำหนดนโยบายเหล่านี้ต่อยอดจากความสำเร็จด้านการจัดการโรคในประเทศเพื่อเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่ง “นายกฯ” ได้ขอบคุณกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันทำภารกิจที่เต็มไปด้วยความกดดันนี้ พยายามแก้ไขและจัดการ กฏระเบียบ ขั้นตอน และกระบวนการต่าง ๆ ในระยะเวลาอันสั้น และตระหนักดีว่า ทุกคนทุกฝ่ายพยายามกันอย่างเต็มที่ และได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งเครื่องการฉีดวัคซีนให้เร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก รวมทั้งขอให้ทุกคนยังคงรักษามาตรการทางสาธารณสุข มีวินัยในการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลอยู่เสมอ

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง