นายกฯ แถลง ยืนยันไทยเปิดประเทศ 1 พ.ย. 64 และจะพิจาณาอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิง/ดื่มได้ภายใน 1 ธ.ค.

news2021_Facebook66651
  • 1 พ.ย. เปิดประเทศรับการเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว
    สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดส ที่เดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศ และมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยต้องมีผลการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR มาจากประเทศต้นทาง และตรวจอีกครรั้งเมื่อถึงไทย เบื้องต้นกำหนดรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำประมาณ 10 ประเทศและจะเพิ่มจำนวนประเทศให้มากขึ้นอีกตามลำดับ
  • ภายใน 1 ธ.ค. จะพิจารณาอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร และอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิง/สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยเปิดให้บริการได้ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เหมาะสม

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 11 ตุลาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ความว่า

พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านครับ

หนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา เราได้ผ่านความท้าทายที่หากไม่นับช่วงเวลาศึกสงคราม นี่ถือเป็นความท้าทาย ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นวิกฤตการณ์ที่ไม่มี ใครในประเทศ ไม่ได้รับผลกระทบ และเช่นเดียวกัน ก็ไม่มีประเทศไหนในโลก ที่ไม่ได้รับผลกระทบ

ที่ผ่านมา เป็นความหนักใจที่สุดในชีวิตของผมเองด้วย ที่ต้องตัดสินใจเลือก ระหว่างปกป้องชีวิตคน กับปกป้องการทํามาหากิน เป็น 2 ทางเลือกที่ไม่สามารถแยกขาดออกจากกันได้ เมื่อเราเลือกที่จะ ปกป้องชีวิตประชาชน เรากลับต้องทําให้ชีวิตเหล่านั้นพบเจอกับความยากลําบากในการทํามาหา เลี้ยงชีวิต ต้องอยู่อย่างไม่มีรายได้ หรือหากเราเลือกที่จะปกป้องการทํามาหากินตามปกติของ ประชาชน เราก็คงต้องเจอกับการสูญเสียชีวิต ที่อาจจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน เพื่อนบ้าน หรือ แม้กระทั่งคนที่เป็นเสาหลักที่หาเลี้ยงครอบครัวเรา

การต้องเจอกับทางเลือกแบบนี้ ทําให้เราต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ช้าไม่ได้ และเราทําแบบ รอดู สถานการณ์ก่อน ไม่ได้ ดังนั้น ตั้งแต่แรกเริ่มที่เราต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผมเลือกที่จะไม่ยอมให้มันมาพรากเอาชีวิตของพี่น้องคนไทยไป เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในหลาย ประเทศทั่วโลก

เพราะฉะนั้น ผมได้ตัดสินใจอย่างชัดเจนแน่วแน่ ปฏิบัติตามคําแนะนําของผู้เชี่ยวชาญทางด้าน สาธารณสุขที่ยอดเยี่ยมของเรา ที่มีอยู่มากมายหลายท่าน เราลงมือทําอย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้ มาตรการที่เข้มงวดต่างๆ พร้อมกับขอความร่วมมือจากประชาชนคนไทย

ด้วยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในสังคม เผชิญหน้ากับวิกฤตที่เกิดขึ้น วันนี้ประเทศไทยเป็น หนึ่งในประเทศที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดในโลกในการปกป้องรักษาชีวิตของประชาชน

และด้วยความเสียสละอย่างมหาศาล อดทนเจอกับความยากลําบากในการทํามาหากิน สูญเสีย รายได้ สูญเสียเงินเก็บ ธุรกิจพัง สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่พวกเราแลกไป เพื่อรักษาชีวิตของพ่อแม่พี่น้อง และเพื่อนของเราเอาไว้ ให้พวกเค้ายังคงอยู่กับเราในวันนี้

วันนี้ ความเสี่ยงในเรื่องการสูญเสียชีวิตที่จะเกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย กําลังค่อยๆ ลดลง ถึงแม้ว่า ความเสี่ยงนั้นจะยังมีอยู่ และเรายังต้องระวัง รักษาความสามารถของ ระบบสาธารณสุข โรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ของเราอยู่ก็ตาม

ตอนนี้ ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องค่อยๆ เตรียมตัว กล้าที่จะเผชิญหน้ากับโควิด-19 โดยมีความพร้อม เรื่องยารักษาและวัคซีนป้องกันมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปอีกไม่นาน เราก็จะต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับ มันเหมือนกับโรคภัยอื่นๆ ที่กลายเป็นโรคประจําถิ่น

วันนี้ ผมอยากประกาศ หนึ่งก้าวเล็กๆ แต่เป็นก้าวที่สําคัญ ที่เรากําลังจะเดินหน้า บนเส้นทางที่จะ ช่วยให้พี่น้องประชาชน สามารถกลับมาทํามาหาเลี้ยงตัวเองกันได้อีกครั้ง

ในช่วงหนึ่งถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศที่เป็นนักท่องเที่ยวสําคัญของประเทศไทย ต่างค่อยๆ เริ่มอนุญาตให้ประชาชนของเค้า เดินทางได้โดยไม่มีเงื่อนไขที่ยุ่งยากมากมาย อย่างเช่น อังกฤษ ตอนนี้เพิ่งจะอนุญาตให้ประชาชนเดินทางมาประเทศไทยได้โดยไม่ ยุ่งยาก หรืออย่าง สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ก็เพิ่งเริ่มผ่อนคลายเงื่อนไขในการเดินทาง ไปต่างประเทศของประชาชน

ความคืบหน้าที่เกิดขึ้นแบบนี้ เราเอง แม้ยังต้องระมัดระวัง แต่ก็ต้องเดินหน้าให้ไว เพื่อ ไม่ให้เสียโอกาส ที่อย่างน้อย เราจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวมาได้บ้าง ในช่วงเทศกาล เดินทางท่องเที่ยววันหยุดสิ้นปี ใน 3 เดือนข้างหน้านี้ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมการทํามาหา กินของประชาชนนับล้านๆ คน ในภาคการท่องเที่ยว การเดินทาง และภาคธุรกิจพักผ่อน หย่อนใจ และบันเทิง รวมถึงภาคธุรกิจอื่น อีกมากมายที่เกี่ยวข้อง

เพราะฉะนั้น วันนี้ ผมได้สั่งการให้ ศบค และ กระทรวงสาธารณสุขร่วมพิจารณา โดยตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มเปิดรับการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัว สําหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และเดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศ โดยมาจากประเทศที่ เรากําหนดว่า เป็นประเทศความเสี่ยงต่ํา

เราจะขอเพียงแค่ เมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย ทุกคนต้องแสดงตัวว่าปลอดเชื้อโควิด-19 โดยต้องมี หลักฐานผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งทําการตรวจก่อนเดินทางออกจาก ประเทศต้นทาง และจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย หลังจาก นั้น จึงสามารถเดินทางไปพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างอิสระ เช่นเดียวกับที่คนไทยปกติทั่วไปสามารถทําได้

ในเบื้องต้น เราเริ่มต้นกําหนดรายชื่อประเทศความเสี่ยงต่ํา ที่จะสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัว ไว้ที่อย่างน้อย 10 ประเทศ ซึ่งจะรวมประเทศ อย่างเช่น อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา โดยเราตั้งเป้าจะเพิ่มจํานวนประเทศให้มากขึ้นอีก ภายในวันที่ 1 ธันวาคม และ หลังจากนั้น ภายในวันที่ 1 มกราคม เราจะเพิ่มจํานวนประเทศให้มากขึ้น อย่างกว้างขวาง

ส่วนผู้ที่มาจากประเทศ ที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศความเสี่ยงต่ํา เรายังให้การต้อนรับเข้าประเทศ ไทย แต่จําเป็นต้องมีการกักตัว ตามเงื่อนไขและข้อกําหนด

พร้อมกันนี้ ภายในวันที่ 1 ธันวาคม เราจะพิจารณาอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ใน ร้านอาหารได้ และจะพิจารณาอนุญาตให้สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และสถานบันเทิง เปิดให้บริการ ได้ ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว การ พักผ่อนและบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เรากําลังจะเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองเนื่องใน โอกาสปีใหม่

ผมรู้ว่าการตัดสินใจแบบนี้มีความเสี่ยงที่เกือบจะแน่นอนเลยว่า เมื่อเราเริ่มต้นการผ่อนคลายต่างๆ จะทําให้มีจํานวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เป็นการชั่วคราว ซึ่งเราต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และ ประเมินดูว่า เราจะรับมือกับสถานการณ์นั้นอย่างไร เราต้องไม่ปล่อยโอกาสนี้ เพราะถ้าเราต้องเสียโอกาส ในช่วงเวลาทอง ของการทํามาหากินไปอีก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ผมคิดว่าประชาชนคงรับมือ ไม่ไหวอีกต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเห็นว่า ในสองสามเดือน หรือสี่เดือนข้างหน้า มีสายพันธุ์ใหม่ที่อันตราย มากๆ เกิดขึ้นอีก แน่นอนว่า เราก็ต้องจัดมาตรการที่เหมาะสมและพอเหมาะพอดี มาจัดการคุม สถานการณ์เอาไว้ให้ได้ เมื่อเรารู้ว่า ไวรัสนี้ได้ทําให้ทั่วทั้งโลกต้องตกใจมาแล้วหลายรอบ ดังนั้น เรา ต้องพร้อมรับมือ หากมันเกิดขึ้นอีก

เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผมได้ตั้งเป้าที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดย ไม่ต้องกักตัว ให้ได้ภายใน 120 วัน พร้อมกับเร่งเครื่องการฉีดวัคซีนให้ประชาชน

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง