น้ำชีลด 20 ซม. ชาวบ้านทยอยเข้าสำรวจความเสียหาย

01-1633771982064

น้ำชีลด 20 ซม. ชาวบ้านทยอยเข้าสำรวจความเสียหาย นายกฯ วอนทุกคนเข้าใจสถานการณ์ เพราะสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย ย้ำชัดระดับน้ำลดลงเป็นปกติเร่งสำรวจความเสียหายทั้งตำบล พร้อมประสานงาน ร่วม สส. และ อบจ.จัดงบเสริมความสูงพนังกั้นน้ำเป็น 2 เมตร

          เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ต.ค.2564 ที่ บ.ท่าพระเนาว์ ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายพิสุทธิ์ อนุตรอังกูร นายกเทศมนตรี ต.ท่าพระ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ปภ.เขต 7 จ.สกลนคร ,ทีมเด็กวัดนางรอง,มูลนิธิกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์,คณะทำงานวัดป่าอัมพวันคุณานุสรณ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และประชาชนจิตอาสาในเขต จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ อาหารปรุงสุกและน้ำดื่ม ให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ พร้อมทั้งตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ประจำวันหลังพบว่าวันนี้ระดับน้ำในเขต ต.ท่าพระ ลดระดับลง 20 ซม.คงเหลือ 1.20 เมตรจากระดับน้ำท่วมสูงสุดในพื้นที ขณะที่จุดวัดระดับน้ำของกรมชลประทานที่ติดตั้งอยู่ริมสะพานข้ามแม่น้ำชี รอยต่อ ต.ท่าพระ กับ ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น ถูกกระแสน้ำพัดเสียหายแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องติดตั้งธงแดงและเสาสัญญาณเพื่อแจ้งเตือนประชาชนและวัดระดับน้ำในพื้นที้ตลอดแนวแม่น้ำชีอย่างต่อเนื่อง

          นายพิสุทธิ์ อนุตรอังกูร นายกเทศมนตรี ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เป็นสัญญาณที่ดีที่วันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำชี ที่ไหลเข้าเขต อ.เมืองขอนแก่น เริ่มอ่อนตัวลงจนทำให้วันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำชีที่จุดสูงสุดลดลง 20 ซม. วัดระดับได้วันนี้ที่ 1.20 เมตร ซึ่งในการให้ความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันโดยเฉพาะอาหารปรุงสุก ที่ต้องจัดทำแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยวันละ 1,500 กล่อง โดยเทศบาลฯได้ตั้งจุดบริหารเหตุการณ์แยกเป็นรายพื้นที่ รวมทั้งหมด 6 จุดทุกจุดจะเป็นสถานที่พักพิงของผู้ประสบภัยที่อพยพออกมาจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมและเป็นจุดรับบริจาคหรือติดตามสถานการณ์เหตุการณ์ เนื่องจากมวลน้ำจากแม่น้ำชีที่ไหลมาจาก จ.ชันภูมิได้ล้นข้ามพนังกั้นน้ำเข้าเขต ต.ท่าพระมาแล้วเกือบ 1 สัปดาห์

          “พนังกั้นแม่น้ำชีของเขตเทศบาลฯ อยู่ที่ระดับ 1 เมตรแต่มวลน้ำชีไหลทะลักเข้าเขตท่าพระระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1.40 เมตร และจากการตรวจสอบพบว่ามวลน้ำหนุนที่ไหลทะลักเข้าพื้นที่ทุกวันทำให้พนังกั้นน้ำของ ต.ท่าพระ ชำรุดเสียหาย 4 จุดคือที่ บ.ท่าพระเนาว์ และที่ บ.หนองปลาเข็ง ซึ่งขณะนี้แม้ระดับน้ำจะลดลงแล้วแต่เทศบาลฯยังคงไม่อนุญาตให้ประชาชนกลับเข้าบ้านเนื่องจากระดับน้ำยังสูงอยู่ จึงขอความร่วมมือทุกคนให้ปฎิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดและลงรายชื่อเพื่อเข้าไปดูบ้านเรือนของตนเอง ซึ่งกำหนดเข้าพื้นที้คือช่วงเช้า กลางวันและเย็น เนื่องจากเทศบาลฯมีเรือจาก ปภ.เขต 7 มาประจำการ 3 ลำและเรือของเทศบาล 1 ลำ ซึ่งขณะนี้การอพยพประชาชนมาไว้ในจุดที่ปลอดภัยนั้นเสร็จสิ้นแล้ว และการขอกลับเข้าพื้นที่เพื่อดูบ้านตัวเอง จึงขอให้ทุกคนนั้นได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่เพื่อจัดลำดับการให้บริการ ในแต่ละรอบ เนื่องจากเรือที่มีอยู่นั้นจะต้องใช้ในการลำเลียงอาหาร,ตรวจสอบสถานการณ์ ตรวจสอบความปลอดภัยในสภาพพื้นที่เนื่องจากประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนได้อพยพมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัยแล้ว แต่ยังคงมีบางส่วนที่ระดับน้ำไม่ท่วมสูงที่ยังคงขออยู่บ้านของตนเองซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ทุกวัน”

          นายพิสุทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า ด้วยพนังกั้นน้ำชีของเขต ต.ท่าพระ มีระดับความสูง ที่ 1 เมตร แต่มวลน้ำปีนี้ สูงกว่า 1.40 เมตร ซึ่งเป็นระดับความสูงเทียบเคียงกับเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ของ ต.ท่าพระ เมื่อปี 2521 ทำให้เมื่อระดับน้ำลดจะมีการสำรวจความเสียหายและประสานงานร่วม ส.ส.พื้นที่ และ อบจ.ขอนแก่น ในการทำพนังกั้นน้ำรับแม่น้ำชีเข้าเขตเมืองในระดับความสูง 2 เมตร อย่างไรก็ตามภาพรวมความเสียหายทั้งตำบล ในความรับผิดชอบของเขตเทศบาลฯ ขณะนี้ครอบคลุมพื้นที่ 6 หมู่บ้าน คือ บ.หนองบัวดีหมี ม.11,7,20และ ม.18 รวมทั้ง บ.ท่าพระเนาว์ ม.6 และ บ.หนองปลาเข็ง ม.1 เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนเสีบหายกว่า 500 หลังคาเรือน แต่เมื่อระดับน้ำลดจะเร่งสำรวจความเสียหายเพือให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึงและไม่ตกหล่น

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง