ขอนแก่น น้ำชีเซาะถนนสายรองคอสะพานขาด ชาวบ้านบอกตั้งตัวไม่ทันเพราะไม่มีฝนตกในพื้นที่ (มีคลิป)

สถานการณ์น้ำชีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ล่าสุดระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กัดเซาะถนนสายรอง อ.เมือง-อ.พระยืน จ.ขอนแก่น คอสะพานขาดกว้างประมาณ 10 เมตร ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นสั่งปภ.ตรวจสอบ

                เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ริมแม่น้ำชี ในพื้นที่ตำบลท่าพระ และเส้นทางสายบ้านหนองบัวดีหมีไปอำเภอพระยืน จ.ขอนแก่น ระยะทาง 15 กิโลเมตร พบว่า น้ำชีเอ่อท่วมทุ่งนา และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่สองข้าง และอยู่ริมแม่น้ำชี โดยในพื้นที่บ้านหนองบัวดีหมีนั้น ประชาชนที่มีบ้านอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำชี ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ อบต.และฝ่่ายปกครอง ตำรวจ ร่วมกันลงพื้นที่ นำเรือไปช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของ

                ในขณะเดียวกัน บนเส้นทางสายหนองบัวดีหมีไปพระยืนนั้น มีน้ำท่วมถนนสูงกว่า 50 ซม. เจ้าหน้าที่ทำป้ายติดประกาศห้ามประชาชนสัญจรไปมาบนถนนสายดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่าถนนที่เชื่อมกับสะพาน บนเส้นทางจากบ้านหนองบัวดีหมีจะไปบ้านหนองโพธิ์ ม.8 ต.หนองแวง อ.พระยืน ซึ่งสองข้างทางเป็นทุ่งนา และถูกน้ำท่วมประมาณ 3 เมตร น้ำได้เซาะเอาถนนที่เชื่อมกับสะพานขาด กว้างประมาณ 10 เมตร เสาไฟฟ้าข้างทางก็หักโค่น

                นายหนูพัด พุทธเสน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.8 บ้านหนองโพธิ์ ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า น้ำเข้ามาในพื้นที่ได้ 3 วันแล้ว เชื่อว่าเป็นมวลน้ำจากจังหวัดชัยภูมิ ไหลมาหนุนน้ำชี ทำให้เอ่อท่วมหมู่บ้าน ท่วมนาข้าว และถนนขาด ทำให้ชาวบ้านที่ต้องเดินทางไปทำงานในเมืองขอนแก่น ลำบาก เพราะเรือที่ทางราชการนำมาช่วยเหลือก็ไม่เพียงพอ คงต้องเดินทางอ้อมไปฝั่งบ้านทุ่ม ซึ่งระยะจะไกลกว่าเดิม แต่เพื่อความปลอดภัยก็จำเป็นต้องไป ส่วนน้ำท่วมในปีนี้ น้ำมาเร็ว หนักกว่าทุกครั้ง และไม่มีสัญญาญเตือน เพราะไม่มีฝนตกในพื้นที่ แต่เป็นมวลน้ำจากที่อื่นไหลมาท่วม ทำให้ชาวบ้านหลายคนตั้งตัวไม่ทัน สิ่งของในบ้านถูกน้ำท่วม เสียหาย

                ด้านนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น หลังทราบเรื่องได้สั่งการไปยัง ปภ.จังหวัดเข้าพื้นที่สำรวจความเสียดายเพื่อซ่อมแซมต่อไป เนื่องจากถนนสายดังกล่าวนั้นสามารถเดินทางตัดข้ามไปยังอีกอำเภอติดกันและข้ามไปได้อีกหลายจังหวัดซึ่งเป็นถนนสายรองที่มีชาวบ้านใช้สัญจรเป็นจำนวนมากเช่นกัน และในส่วนของบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายนั้น มีอยู่หลายพื้นที่ซึ่งทางจังหวัดเองก็จะเร่งเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาในเบื้องต้นให้ครบทุกพื้นที่ต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง