ขอนแก่นตรวจเข้มโรงงานในเขต อ.เมือง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อ.เมืองวันนี้ 51 ราย (มีคลิป)

news2021_Facebook61

ขอนแก่นตรวจเข้มโรงงานในเขต อ.เมือง ป้องกันโควิดในสถานประกอบการอย่างรัดกุม “นายอำเภอ” ย้ำชัดทุกกิจกรรมต้องนิวนอร์มอล งดการรวมกลุ่มในโรงงานห้ามรับประทานร่วมกันเด็ดขาด พร้อมเร่งตรวจคัดกรองพื้นที่เสี่ยงอย่างเข้มงวดทุกวัน

        เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ก.ย.2564 ที่ บ.ซีเค ชูส์ (ประเทศไทย) จำกัด นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอเมืองขอนแก่น นำคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ อ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยคณะทำงานด้านป้องกันและควบคุมโรค สำนักงานสาธาณสุข จ.ขอนแก่น, สำนักงานควบคุมโรค,ศูนย์อนามัยที่ 7, อุตสาหกรรมจังหวัดและเทศบาลเมืองบ้านทุ่ม ตรวจติดตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มสถานประกอบการและโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

        โดยคณะฯได้ตรวจสอบมาตรการควบคุมและป้องกันทั้งภายในสถานประกอบการ,มาตรการควบคุมการเข้า-ออกโรงงาน,โรงอาหาร,จุดพักคอย,จุดพักรอและแผนเผชิญเหตุของโรงงานตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ได้กำหนดไว้

        นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอเมืองขอนแก่น กล่าวว่า มาตรการควบคุมและป้องกันของ บ.ซีเค ชูส์ฯ ในจุดที่คณะทำงานร่วมทุกฝ่ายได้ลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบนั้นเป็นไปตามมาตรการที่กำหนดและมีการประสานการทำงานร่วมกันกับระดับพื้นที่ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งต้องยอมรับว่า ขณะนี้กลุ่มสถานประกอบการและโรงงานหลายแห่ง ในเขต อ.เมืองขอนแก่น มีการตรวจพบผู้ติดเชือโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นนอกจากการกำหนดแผนเผชิญเหตุ หรือการรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแล้ว การลงพื้นที่เพื่อตรวจย้ำมาตรการและเติมเต็มในจุดที่ขาดหายไปในรูปแบบของการประสานการทำงานร่วมกันเป็นทีมร่วมกันทุกฝ่าย เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์และรับมือกับกับภาวะเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น จะต้องเดินไปด้วยกันและก้าวผ่านวิกฤติเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยกัน

        “ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ในกลุ่มสถานประกอบการและโรงงานคือเมื่อพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อแล้ว ต่างคนต่างทำและขาดการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดังนั้นจากนี้ไปการทำงานร่วมกันทุกฝ่ายจะต้องเป็นทีม เพราะคณะทำงาน มีเจ้าหน้าทีที่รับผิดชอบ เมื่อเกิดเหตุสถานประกอบการหรือโรงงานก็จะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่ง บ.ซีเค ชูส์ฯ ซึ่งมีพนักงานทำงานวันละกว่า 1,600 คนได้แสดงศักยภาพถึงมาตรการที่ควบคุมป้องกันได้อย่างดี มีความเด็ดขาดในการตรวจคัดกรอง ประเมินกลุ่มเสี่ยงและประสานงานร่วมกับพื้นที่ทั้งเทศบาลฯ,รพ.สต.หรือแม้กระทั่งกับทางอำเภอและ สสจ.อย่างต่อเนืองทั้งยังคงมีการจัดเตรียมพื้นที่จุดพักรอ และจุดพักคอย สำหรับการกักตัวหรือแยกตัวกลุ่มเสี่ยง ซึ่งตั้งชื่อว่าบ้านแสนสุข ในการที่จะแบ่งเบาภาระงานของเจ้าพนักงานควบคุมโรค ตามการจัดระบบคัดครองกลุ่มเสี่ยงได้อย่างดีอีกด้วย”

        นายอำเภอเมืองขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ได้กำหนดแนวทางที่ชัดเจนโดยยกกรณีตัวอย่างจากกลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆมากำหนดยังคับใช้ในทุกพื้นที่โดยทันทีว่ามีกลุ่มเสี่ยงสูง หรือตรวจ ATK ขั้นต้นพบว่าเป็นบวกและต้องเข้ารับการตรวจซ้ำตามระบบสาธารณสุข การคัดแยกกลุ่มดังกล่าวนี้โรงงานต้องเด็ดขาด ทั้งพนักงานประจำและคนในครอบครัว ที่ต้องกันพื้นที่ทันทีพร้อมทั้งประสานงานร่วมเจ้าพนักงานท้องที่และฝ่ายสาธารณสุข ในการเข้ามาทำการตรวจคัดกรองและประเมินสถานการณ์เพื่อเข้าสู่ระบบการส่งต่อผู้ป่วยทั้งการรักษาหรือการกักตัวเพื่อประเมินอาการในสถานที่ที่รัฐได้กำหนดไว้ทันที อย่างไรก็ตามภายในบริเวณโรงงานหรือสถานประกอบการจะต้องเว้นระยะห่างและงดการรวมกลุ่มอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่ควรงดการรวมตัวกันโดยเด็ดขาด รวมไปถึงพนักงานที่แม้จะปฎิบัติตามมาตรการที่โรงงานกำหนดไว้อย่างเข้มงวดภาบในเขตโรงงานแล้ว เมื่อกลับบ้านหรือไปในสถานที่ต่างๆจะต้องป้องกันตัวอย่างเข้มงวดด้วย เพื่อร่วมกันควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเขต อ.เมืองขอนแก่น ได้อย่างเข้มงวดที่สุด

        ขณะที่เวลา 17.30 น.วันนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น รายงานสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดขอนแก่น ประจำวัน พบว่าวันนี้เขตอำเภอเมือง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 51 ราย สะสมเฉพาะอำเภอเมืองรวม 2,314 ราย

โดยมีรายละเอียดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอำเภอต่างๆดังนี้
• เมืองขอนแก่น 51
• ต่างจังหวัด 26 (2)
• พระยืน 6
• แวงน้อย 5 (1)
• สีชมพู 4
• น้ำพอง 2
• บ้านฝาง 1
• ชุมแพ 1
• พล 1
• หนองสองห้อง 1 (1)
• มัญจาคีรี 1
หมายเหตุ: ในวงเล็บคือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (สีแดงเข้ม)

โดยภาพรวมจังหวัดขอนแก่นวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 100 ราย
• ผู้ติดเชื้อสะสมสะสมระลอกเม.ย. 12,671 ราย (ทั่วไป 10,523 /เรือนจำ 2,148)
• กำลังรักษา 2,564 ราย
• รักษาหายสะสม 10,055 ราย
• เสียชีวิตสะสม 62 คน (ทั่วไป 52/ เรือนจำ 10)

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง