ขอนแก่น คืบหน้าน้องฆ่าพี่ตายเพราะเหล้าขวดเดียว แม่คนตายอโหสิกรรมให้ (มีคลิป)

news_Facebook_2021

คืบหน้า น้องฆ่าพี่ตายหลังมีปากเสียงทะเลาะกันเพราะเหล้าขวดเดียว มือปืนยืนยันปืนลั่นไม่ได้เจตนาฆ่า ตำรวจเร่งสอบปากคำคุมตัวส่งฟ้องศาลฝากขัง 3 ข้อหา ขณะที่แม่ผู้ตายซึ่งเป็นป้าของมือปืนอโหสิกรรมให้ทั้งหมดปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรกรรม

     จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น จับกุม นายวิรัตน์ รัตนผูก อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 ม.12 ต.ดงเค็ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก และควบคุมตัวไว้สอบสวนและดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยโดยไม่มีเหตุสมควร และข้อหาเสพยาเสพติด หลังจากยิง นายตะวัน แก้วฝ่ายนอก อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.12 ต.ดงเค็ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ญาติผู้พี่ตายที่ลานดินข้างบ้าน เมื่อเย็นวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

     ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ที่งานสอบสวนสภ.หนองสองห้อง พ.ต.ท.สมคิด นาหนอง รองผกก.สอบสวน สภ.หนองสองห้อง พร้อมพนักงานสอบสวน ได้คุมตัวนายวิรัตน์ รัตนผูก อายุ 25 ปี มาสอบสวน โดยมีมารดาของผู้ต้องหาและทนายความ ร่วมรับฟังการสอบสวนในครั้งนี้ด้วย จากนั้น ได้ทำการส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดพล

     พ.ต.ท.สมคิด นาหนอง รองผกก.สอบสวน สภ.หนองสองห้อง กล่าวภายหลังการสอบสวนว่า ผู้ต้องหาให้การว่า ไม่ได้มีเจตนาฆ่านายตะวัน เนื่องจากก่อนเกิดเหตุนั้น ได้ไปทำธุระด้วยกัน ที่อ.พุทธไธสงค์ จ.บุรีรัมย์ ขากลับผู้ต้องหาซื้อสุรา 40 ดีกรีขวดเล็กขึ้นรถด้วย 1 ขวด และทางผู้ตายกับเพื่อนอีกคนพากันดื่มในรถ เมื่อถึงบ้านจึงถามหาสุรา ทางฝ่ายนายตะวันไม่พอใจ พูดจาเสียงดังและทุบรถเก๋ง พร้อมกับยิงปืน ขึ้นฟ้า1 นัด ผู้ต้องหาตกใจและมองไปดู เห็นนายตะวันเล็งปืนมาใส่ตัวเอง จึงวิ่งเข้าไปแย่งปืน และปืนลั่นขึ้นอีก 1 นัด กระสุนเจาะเข้าที่ใต้คางข้างซ้ายของนายตะวันจนล้มลงเสียชีวิต

     จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่า เมื่อ 3 วันที่ผ่านมาได้เสพยาบ้าไป 1 เม็ด แต่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากการหลอนยาบ้า หรือโกรธแค้นกับผู้ตายแต่อย่างใด โดยอ้างว่า เกิดจากการป้องกันตัวเอง เพราะผู้ตายเล็งปืนมาใส่จะยิง จึงวิ่งเข้าไปหาจนเกิดการแย่งปืนกัน และปืนก็ลั่นใส่นายตะวันตาย อีกทั้งอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวก็เป็นของผู้ตาย ที่พกติดตัวมานาน เมื่อเมาสุราผู้ตายก็มักจะควักปืนออกมาโชว์เป็นประจำ

     ทางด้าน นายวิรัตน์ รัตนผูก อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีเรื่องโกรธเคืองกับผู้ตาย และไม่เคยคิดฆ่าผู้ตาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดเพราะตนต้องการดื่มสุรา ที่ตนเองซื้อขึ้นมาในรถ กะว่าถึงบ้านจะเอามาดื่ม ถามกับนายตะวัน ซึ่งมีอาการเมาสุรา ก็ตอบว่าไม่รู้เรื่อง ทั้งยังโวยวายและจะยิงตน ตนจึงเข้าไปแย่งปืน และปืนก็ลั่นใส่ นายตะวันเสียชีวิตดังกล่าว ขอยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจฆ่า แต่เป็นเพราะปืนลั่น

     ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 74 ม.12 ต.ดงเค็ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตาย อยู่ติดกับบ้านผู้ต้องหา พบนางดอกลิ แก้วฝ่ายนอก อายุ 61 ปี มารดาของผู้ตายและมีศักดิ์เป็นป้าของผู้ก่อเหตุ พร้อมญาติพี่น้องกำลังเตรียมสถานที่ ที่จะตั้งศพของผู้ตาย กล่าวว่า เรื่องที่ลูกชายถูกยิงตายนั้น ไม่ทราบรายละเอียด และไม่เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากไปเลี้ยงหลานที่กรุงเทพ ส่วนสามีก็ไปบวชเป็นพระ ที่บ้านจึงมีเพียงนายตะวัน ลูกชายอาศัยอยู่เพียงลำพัง มากว่า 1 เดือนแล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นลูกชายกับหลานชายมีปัญหากัน เห็นแต่คอยช่วยเหลือกัน แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นญาติพี่น้องโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบ จึงรีบเดินทางกลับมา จัดงานบำเพ็ญกุศลศพให้ลูก ซึ่งไม่ว่าการตายจะเกิดจากสาเหตุใดก็ไม่เคียดแค้น ขออโหสิกรรมให้ ขอให้ทุกอย่างว่ากันไปตามกฎหมาย คนทำผิดก็รับโทษไป ขอให้เป็นเรื่องของเวรกรรมไม่อยากให้มีเวรมีกรรมต่อกันอีก ส่วนศพลูกชายนั้น ยังอยู่ที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ รอญาติพร้อมจึงจะไปรับศพออกมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

     ขณะที่นายชั้น วรรณศรี อายุ 67 ปี ลุงของคนตายและลุงของผู้ต้องหา ซึ่งเห็นเหตุการณ์ ที่นายตะวันกับผู้ต้องหาทะเลาะกัน ก่อนที่นายตะวันจะถูกยิงตาย พาผู้สื่อข่าวไปจุดที่เกิดเหตุ พร้อมกับเปิดเผยว่า เห็นนายวิรัตน์ ขับรถเก๋งเข้ามาจอดที่ลานดินข้างบ้าน ในรถนั่งมาด้วยกัน 4 คนคือ นายวิรัตน์เป็นคนขับรถ นายตะวัน นั่งคู่มาที่เบาะหน้าข้างคนขับ เพื่อนอีกคนและภรรยานายวิรัตน์นั่งที่เบาะหลัง เมื่อรถจอดสนิท นายตะวันกับเพื่อนอีกคนก็ลงจากรถ จากนั้นนายวิรัตน์ได้ตะโกนถามหาขวดสุรา ที่ซื้อไว้ในรถ นายตะวันไม่พอใจเอะอะโวยวาย ฉุนเฉียวและทุบรถ ทั้งยังยิงปืน 1 นัด ไม่นานก็เห็นนายวิรัตน์ เดินเข้าไปยื้อแย่งปืน และเกิดเสียงปืนดังขึ้นมาอีก 1 นัด จากนั้นนายวิรัตน์ก็ขับรถหนีไป ไม่นานก็ขับรถกลับมามอบตัวกับตำรวจ

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง