ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ตามรวบมิจฉาชีพเป็นหญิงวัย 36 ปี ชาว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ก่อเหตุใช้ธนบัตรปลอมซื้อล็อตเตอรี่คนพิการ พร้อมกับเอาเงินปลอมมาแลกเงินจริง ได้ล็อตเตอรี่ไป 1 ใบ พร้อมกับเงินสดไป 3,420 บาท ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่นตามรวบขณะกำลังจะขึ้นรถกลับบ้าน สารภาพก่อเหตุมาแล้ว 7 ครั้งเลือกเฉพาะเหยื่อสูงวัยและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

      เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 30 เม.ย.2564 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน คุมตัว น.ส.กรรณิการ์ คูละโคตร์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/2 หมู่9 อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ในข้อหา ทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาล และใช้พันธบัตรรัฐบาลปลอม และฉ้อโกง พร้อมของกลางประกอบด้วย บัตรเอทีเอ็มจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีธนาคารหลายธนาคาร สลากกินแบ่งรัฐบาลกว่า 10 ชุด ธนบัตรปลอมชนิดละ 500 บาท จำนวน 10 ใบ และธนบัตรจริงชนิดละ 500 ท ซึ่งเป็นธนบัตรต้นแบบในการคัดลอก 1 ใบ ธนบัตรชนิดละ 1,000 บาทปลอมอีก 1 ใบ มาสอบสวน หลังก่อเหตุใช้ธนบัตรปลอมชนิดละ 500 บาท ไปหลอกซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับนาย ชุ่ม ทูลขุนทด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/112 หมู่ 3 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งพิการตั้งแต่กำเนิด พร้อมกับขอแลกเงินธนบัตรใบละ 100 บาท จากพ่อค้าสลากฯ ได้เงินสดซึ่งเป็นเงินจริงจาพ่อค้าสลากฯไปจำนวน 3,420 บาท โดยหักค่าสลากฯไป 80 บาท หลบหนีไปอย่างลอยนวล ซึ่งก่อเหตุเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา ก่อนจะสามารถจับกุมตัวได้ขณะกำลังจะขึ้นรถที่ บ.ข.ส.เพื่อกลับบ้านในพื้นที่ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

      พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงพื้นที่กระทั่งทราบเบาะแสของผู้ก่อเหตุ โดยทำงานที่ร้านซ่อมรถแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ทางชุดสืบสวนจึงได้ซุ่มรอดูความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหา ซึ่งพอช่วงที่ผู้ต้องหาเลิกงานได้ออกจาร้านซ่อมขับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุมาที่ บ.ข.ส.เพื่อจะเดินทางกลับ อ.บ้านฝาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้แสดงตัวระหว่างทาง พร้อมหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นในข้อหาดังกล่าว โดยทันทีที่ผู้ต้องหาเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับสารภาพ ซึ่งจากการตรวจค้นพบธนบัตรปลอมทั้งชนิดละ 500 บาท และ 1,000 บาท อยู่ในกระเป๋า ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุมาแล้ว 7 ครั้ง ในเขตรับผิดขอบของ สภ.เมืองขอนแก่น โดยพฤติการณ์จะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุและคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จะนำธนบัตรปลอมมาหลอกซื้อของเพื่อเอาเงินทอนจากเหยื่อรายต่างๆไป โดยเฉพาะรายล่าสุดซึ่งเป็นพ่อค้าสลากฯและมีความผิดปกติทางร่างกาย หลอกซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไป 1 ใบ พร้อมกับขอแลกเงินแบงก์ร้อย โดยนำธนบัตรปลอมจำนวน 7 ใบมาขอแลกและจ่ายค่าสลากฯไป ทำให้ได้เงินจริงไปทั้งสิ้นกว่า 3 พันบาท ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์เดินทางกลับมาที่ อ.บ้านฝาง

      ผู้ต้องหายังให้การอีกว่า ธนบัตรปลอมที่ทำขึ้นมานั้น ได้ไปถ่ายเอกสารที่ร้านถ่ายเอกสารแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น แล้วนำมาตัดให้พอดีกับขนาดเงินจริง แล้วนำไปใช้ก่อเหตุ โดยในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสอบสวนขยายผลไปยังร้านรับถ่ายเอกสารด้วยว่ามีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาอย่างไรหรือไม่ หากมีส่วนรู้เห็นหรือส่วนได้ส่วนเสียก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย ส่วนมูลเหตุที่ผู้ต้องหาก่อเหตุนั้น ให้การว่า ตัวเองรับจ้างที่อู่ซ่อมรถในเมืองขอนแก่น โดยจะเดินทางไปกลับทุกวันที่อ.บ้านฝางและร้านซ่อม และจะอาศัยช่วงเวลาพักงานออกมาก่อเหตุ เนื่องจากต้องการหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ซึ่งมีสามีและลูก ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว

      พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยอีกว่า คดีดังกล่าวน้ำพบว่ามีผู้เสียหายหลายราย โดยเบื้องต้นจากคำรับสารภาพก่อเหตุมาแล้ว 7 ครั้ง ได้เงินไปจำนวนมาก หากมีผู้เสียหายรายอื่นๆหรือสงสัยว่าตัวเองจะถูกมิจฉาชีพรายนี้ก่อเหตุก็ให้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองขอนแก่นด้วย เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่ม ซึ่งในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็จะมีการสอบสวนเพื่อขยายผลทางคดีต่อไป หากพบมีใครร่วมมือก่อเหตุด้วยก็จะดำเนินคดีไปด้วยทั้งหมด